กมธ.มั่นคงฯ ขอฟังข้อมูล MOU44 หลังหลายฝ่ายเห็นต่าง เล็งใช้กลไกสภาตรวจสอบ เหตุเรื่องรื้อรังมานาน

เผยแพร่ : 21 พ.ย. 2567 12:03:28

กมธ.ความมั่นคงฯ ขอฟังข้อมูลปม MOU44 รอบด้าน หลังหลายฝ่ายมีความเห็นต่าง “โรม” ยันยึดประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก เล็งใช้กลไลสภาเดินหน้าตรวจสอบ เหตุเรื่องรื้อรังมานาน

วันนี้ (21 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องพื้นที่ไทย-กัมพูชา และบันทึกความเข้าใจ MOU44 โดยเน้นการฟังเป็นหลัก ซึ่ง กมธ. ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างยาวนาน อีกทั้งเป็นผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ มีหลายฝ่ายมองเรื่องนี้แตกต่างกันไป แต่การประชุมวันนี้ยังไม่นำไปสู่การตัดสินใจอะไร เน้นไปที่ข้อมูลเป็นหลัก

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่า เรื่องนี้ กมธ.ได้ศึกษารายละเอียด ทั้งบันทึกข้อตกลง และรับฟังความเห็นของนักวิชาการ ซึ่งตนเข้าใจในข้อกังวลของฝ่ายต่างๆ ที่มองว่า ข้อตกลงนี้อาจทำให้ไทยเสียประโยชน์ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่ามีข้อโต้แย้งว่าไม่เป็นเช่นนั้น ดังนั้น จึงใช้การประชุมวันนี้รับฟังข้อมูล และเห็นสอดคล้องกับทุกคนว่าถึงอย่างไรเกาะกูดก็เป็นของไทย แต่เรื่องนี้มีประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน ผลประโยชน์ด้านพลังงาน ว่า สุดท้ายแล้วจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้อย่างไร

เมื่อถามว่า มีประชาชนเข้าชื่อเรียกร้องให้รัฐบาลมีการยกเลิก MOU44 นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีผลกระทบแง่บวก แง่ลบ อย่างไร เพราะวันนี้จุดยืนของ กมธ. คือ การรับฟังข้อมูล แต่ข้อเสนอถึงขั้นยกเลิก MOU หรือไม่ ต้องคุยกันในกรรมาธิการ ซึ่งจะต้องรับฟังและหาข้อมูลให้มากที่สุด โดยต้องไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึก ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลข้อเท็จจริงที่ไม่ได้มองเฉพาะเขตแดน แต่มองไปถึงการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวที่จะนำไปสู่การจัดสรรผลประโยชน์ของฝ่ายต่างๆ ด้วย ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้

“เมื่อได้ข้อมูลออกมาแล้ว เชื่อว่า จะได้ประโยชน์ในการทำหน้าที่ตรวจสอบต่อไป และอยู่ในวิสัยที่เพื่อน สส. สามารถตั้งกระทู้ถามในสภาได้ หรือนำไปหารือกับรัฐบาลได้ รวมถึงการเสนอยุติในประเด็นที่เกี่ยวข้อง และขอยืนยันว่า ส่วนตัวมีจุดยืนในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ แต่ต้องยึดข้อมูลเป็นสำคัญ และเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่เรื้อรังมานาน โดยที่ฝ่ายต่างๆ มีจุดยืนแตกต่างกัน ซึ่งพวกผมในฐานะ สส. และ กมธ. ก็มีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบและรับฟัง ขอให้รออีกนิด เพื่อจะใช้กลไกของกรรมาธิการและสภาในการแสวงหาข้อมูลข้อเท็จจริง” นายรังสิมันต์ กล่าว

ที่มา : MgrOnline