ลงเรือลำเดียวกัน : สีจิ้นผิงเสริมพลังความร่วมมือ G20 ในโลกที่เรรวน

เผยแพร่ : 21 พ.ย. 2567 07:58:35
X
• กลุ่ม G20 ประกอบด้วยประเทศและภูมิภาคเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก
• G20 เป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกจับตา
• G20 มีความสำคัญมากขึ้นในช่วงเวลาที่มีความวุ่นวายและวิกฤตเศรษฐกิจโลก
(แฟ้มภาพซินหัว : สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวสุนทรพจน์ที่พิธีเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ในนครหางโจว มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน วันที่ 4 ก.ย. 2016)
กลุ่มจี 20 (G20) ซึ่งมีสมาชิกเป็นประเทศและภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก ถือเป็นเวทีสำคัญที่โลกจับตามอง ณ ห้วงยามเผชิญความวุ่นวายและวิกฤตทางเศรษฐกิจระดับโลก

สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้สนับสนุนความพยายามร่วมกันของกลุ่มจี 20 ในการดำเนินการตามเจตนารมณ์ “ล่องเรือลำเดียวกัน” และร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง

ครั้งหนึ่งสีจิ้นผิงกล่าวว่าสมาชิกกลุ่มจี 20 ควรแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค และควรเป็นตัวอย่างในการส่งเสริมการพัฒนาของทุกประเทศ ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของมวลมนุษยชาติ และขับเคลื่อนความก้าวหน้าของโลกทั้งใบ

ทั้งนี้ สีจิ้นผิงได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ครั้งที่ 19 ในบราซิล ที่ซึ่งประชาคมระหว่างประเทศจับจ้องสนใจว่ากลุ่มจี 20 จะจัดการกับความไม่แน่นอนที่โลกกำลังประสบพบเจออย่างไร โดยเฉพาะจีนจะนำเสนอแนวทางอะไรเพื่อสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้น
(แฟ้มภาพซินหัว : สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ครั้งที่ 16 ผ่านระบบวิดีโอในกรุงปักกิ่งของจีน วันที่ 31 ต.ค. 2021)
ลุกขึ้นเผชิญความท้าทาย

เมื่อครั้งคณะผู้นำกลุ่มจี 20 เข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งแรกที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในเดือนพฤศจิกายน 2008 พวกเขากำลังดิ้นรนต่อสู้กับการล่มสลายทางการเงินระดับโลกที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทว่าความพยายามร่วมกันของกลุ่มจี 20 ได้ช่วยประคับประคองเศรษฐกิจโลกออกจากหุบเหวจนเข้าสู่วิถีการฟื้นตัว

ขณะช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ร่วมมือกับสมาชิกกลุ่มจี 20 ในการแก้ไขวิกฤตใหญ่อีกหนึ่งประการ โรคระบาดใหญ่ที่มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบศตวรรษ และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งการต่อสู้ครั้งนี้ลำบากยากเย็นกว่าเดิม และสีจิ้นผิงมองว่าส่งผลกระทบเลวร้ายยิ่งกว่าห้วงมหาภัยในปี 2008

สีจิ้นผิงเรียกร้องสมาชิกกลุ่มจี 20 ลุกขึ้นเผชิญความท้าทาย เพิ่มการประสานนโยบายเศรษฐกิจมหภาคระหว่างประเทศ ร่วมรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานระดับโลก และลดทอนกำแพงการค้า รวมถึงกำแพงภาษีศุลกากร เพื่อชุบชูการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกในยุคหลังโรคระบาดใหญ่

“สิ่งสำคัญคือเราต้องจัดยาให้ถูกกับอาการและรากเหง้าของปัญหาที่กำลังเผชิญ” สีจิ้นผิงกล่าวที่การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ในปี 2021

หลูเฟิง ศาสตราจารย์เกียรติคุณสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยปักกิ่ง มองว่ามาตรการแบบหลากหลายแนวทางของสีจิ้นผิงมีความเป็นระบบ ความครอบคลุม และจุดรวมศูนย์ ทำให้ชุดเครื่องมือทางนโยบายของกลุ่มจี 20 สมบูรณ์ยิ่งขึ้น พร้อมกำกับดูแลเศรษฐกิจโลกเชิงรุกและมองการณ์ไกลยิ่งขึ้น

หนึ่งในปัญหาหลักที่สมาชิกกลุ่มจี 20 ร่วมแก้ไขคือภาระหนี้สินที่รีดเค้นทรัพยากรของกลุ่มประเทศรายได้ต่ำในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่และคุ้มครองชีวิต โดยเดือนเมษายน 2020 กลุ่มจี 20 ประกาศแผนริเริ่มผัดผ่อนการชำระหนี้สิน (DSSI) เพื่อช่วยเหลือกลุ่มประเทศเปราะบาง ซึ่งถือเป็นตาข่ายความมั่นคงทางการเงินพิเศษที่ดำเนินงานจนถึงเดือนธันวาคม 2021

จีนภายใต้การนำของสีจิ้นผิงได้ดำเนินการตามแผนริเริ่มผัดผ่อนการชำระหนี้สินของกลุ่มจี 20 ในทุกด้าน และระงับการชำระหนี้สินที่คิดเป็นมูลค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับเหล่าสมาชิกกลุ่มจี 20 ด้วยกัน

รายงานจากโครงการริเริ่มวิจัยจีน-แอฟริกา (CARI) ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งทำความเข้าใจมิติทางการเมืองและเศรษฐกิจของความสัมพันธ์จีน-แอฟริกา ระบุว่าจีนดำเนินบทบาทของตัวเองได้ค่อนข้างดีในการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศต่างๆ ในแอฟริกา สมกับการเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีความรับผิดชอบของกลุ่มจี 20
(แฟ้มภาพซินหัว : คนเดินผ่านแปลงดอกไม้ประดับโลโก้การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ในเขตปินเจียง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน วันที่ 25 ส.ค. 2016)
สร้างสวนเพื่อทุกคน

สีจิ้นผิงนั้นสนับสนุนกิจการการพัฒนาร่วมกันอย่างเสมอต้นเสมอปลาย แสดงความมุ่งมั่นว่าจีนจะสร้าง “สวนเพื่อทุกประเทศ” โดยสีจิ้นผิงเคยกล่าวว่า “งานของกลุ่มจี 20 ไม่ใช่เพียงสร้างผลประโยชน์แก่สมาชิกทั้งยี่สิบรายเท่านั้น แต่เพื่อโลกทั้งใบ”

ผู้นำจีนสนับสนุนการมีสิทธิในการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา โดยสีจิ้นผิงยืนกรานว่าการพัฒนาจะกลายเป็นจริงเมื่อทุกประเทศพัฒนาไปด้วยกันเท่านั้น และผู้อยู่แถวหน้าควรช่วยเหลือผู้อื่นพัฒนาอย่างจริงใจ

เดือนกันยายน 2016 สีจิ้นผิงเป็นประธานการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ในนครหางโจว มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน โดยจีนเชิญกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเข้าร่วมมากกว่าการประชุมทุกครั้งก่อนหน้า และเปลี่ยนแปลงจุดสนใจของกลุ่มจี 20 จากการรับมือวิกฤตระยะสั้นเป็นธรรมาภิบาลระยะยาว

การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ในนครหางโจวได้เกิดแบบอย่างอันมีอิทธิพลต่อการพัฒนาภายหลัง 3 ประการ โดยการพัฒนากลายเป็นส่วนสำคัญในกรอบนโยบายมหภาคระดับโลกครั้งแรก มีการรับรองแผนปฏิบัติการเกี่ยวกับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030 และกลุ่มจี 20 สนับสนุนการสร้างความเป็นอุตสาหกรรมในแอฟริกาและกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา ซึ่งสีจิ้นผิงชี้ว่าแบบอย่างทั้งสามเป็นการดำเนินการอันมีนัยสำคัญโดดเด่น

สีจิ้นผิงยังสนับสนุนการเพิ่มบทบาทการเป็นตัวแทนของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาแห่งอื่นๆ ในระบบธรรมาภิบาลเศรษฐกิจโลก เพื่อช่วยเหลือประเทศเหล่านี้พานพบปณิธานการพัฒนาของตัวเอง โดยแม้ประเทศซีกโลกใต้ (Global South) มีความโดดเด่นเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แต่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนายังคงมีบทบาทน้อยในธรรมาภิบาลโลก

สวีเฟยเปียว ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษากลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) และกลุ่มจี 20 ประจำสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมสมัยแห่งประเทศจีน (CICIR) กล่าวว่าระบบธรรมาภิบาลโลกที่ครอบงำโดยชาติตะวันตกมีความไม่ยุติธรรมอย่างเห็นได้ชัด ขัดขวางความมั่นคงของโลกและการพัฒนาที่ยั่งยืน

ณ การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ในจังหวัดบาหลีของอินโดนีเซียเมื่อปี 2022 จีนเป็นผู้นำการสนับสนุนสหภาพแอฟริกา (AU) เข้าร่วมกลุ่มจี 20 โดยการหารือนอกรอบการประชุมสุดยอดครั้งนั้น แม็กกี แซลล์ ประธานาธิบดีเซเนกัลในตอนนั้น ซึ่งเป็นประธานสหภาพแอฟริกาในปีนั้น ขอบคุณสีจิ้นผิงที่เป็นคนแรกที่สนับสนุนสหภาพแอฟริกาเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มจี 20 อย่างเปิดเผย ทำให้สหภาพแอฟริกากลายเป็นองค์กรระดับภูมิภาคแห่งที่ 2 ต่อจากสหภาพยุโรป (EU) ที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกถาวรของกลุ่มจี 20 ในปี 2023

ปิแอร์ เดอเฟรน กรรมการบริหารมูลนิธิยุโรปแห่งมาดาเรียกา เคยแสดงความคิดเห็นว่าคุณูปการของสีจิ้นผิงต่อกลุ่มจี 20 เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ระยะยาวอันว่าด้วย “ระเบียบโลกที่ยุติธรรมยิ่งขึ้น เป็นหนึ่งเดียวกันยิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และยั่งยืนยิ่งขึ้น”
  (แฟ้มภาพซินหัว : อาคารสำนักงานใหญ่สหภาพแอฟริกาในกรุงแอดดิส อาบาบา ของเอธิโอเปีย วันที่ 9 ก.ย. 2023)
สร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้นร่วมกัน

“เกิดความผิดปกติอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ เราควรแก้ไขมันอย่างไร” สีจิ้นผิงตั้งคำถามแห่งยุคสมัย ณ การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ในจังหวัดบาหลี หลังจากเคยตั้งคำถามนี้ครั้งแรกที่การประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (WEF) ในเมืองดาวอสของสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปี 2017

“เศรษฐกิจโลกกำลังเปราะบางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ยังคงตึงเครียด ธรรมาภิบาลโลกตกต่ำอย่างรุนแรง วิกฤตอาหารและพลังงานผสมปนเปกัน ทั้งหมดนี้กลายเป็นความท้าทายอันน่าสะพรึงกลัวต่อการพัฒนาของเรา” สีจิ้นผิงกล่าว

กลุ่มจี 20 ครองสัดส่วนประชากรโลกราวสองในสาม ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของโลกเกือบร้อยละ 90 และการค้าทั่วโลกราวร้อยละ 80 ทำให้สีจิ้นผิงมองว่ากลุ่มจี 20 มีหน้าที่ดำเนินบทบาทนำในการประคับประคองโลกฟันฝ่ากระแสคลื่นแห่งความยากลำบากและสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้นแก่มนุษยชาติ

สวี นักวิชาการประจำสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมสมัยแห่งประเทศจีน กล่าวว่ายามเผชิญสารพัดความท้าทายระดับโลก ทุกประเทศต่างลงเรือลำเดียวกัน ทางออกเดียวคือทำงานร่วมกันและเสริมสร้างความร่วมมือ โดยตราบเท่าที่สมาชิกกลุ่มจี 20 ยืนเคียงข้างกันย่อมมีหวังในการแก้ไขปัญหาระดับโลก

ด้วยฐานะผู้นำประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก สีจิ้นผิงพูดแล้วทำเสมอ และแม้ลัทธิกีดกันทางการค้าพุ่งทะยานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่สีจิ้นผิงยังคงยืนหยัดปกป้องโลกาภิวัฒน์และสร้างเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้าง

ณ การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ในจังหวัดโอซากาของญี่ปุ่นเมื่อปี 2019 สีจิ้นผิงประกาศมาตรการสำคัญ 5 ประการ เพื่อเปิดกว้างตลาดจีนยิ่งขึ้น เช่น เพิ่มการนำเข้าและกำกับควบคุมธุรกิจทุกประเภทอย่างเท่าเทียมกัน โดยจีนภายใต้การนำของสีจิ้นผิงยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก มีส่วนส่งเสริมการเติบโตของโลกราวร้อยละ 30 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สำหรับคำถามแห่งยุคสมัย สีจิ้นผิงมีคำตอบของตนเอง นั่นคือสร้างประชาคมมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกัน โดยสีจิ้นผิงเรียกร้องทุกประเทศส่งเสริมวิสัยทัศน์ข้างต้นในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ในจังหวัดบาหลี พร้อมสนับสนุนสันติภาพ การพัฒนา และความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์
(แฟ้มภาพซินหัว : โลโก้ของการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ครั้งที่ 17 ในจังหวัดบาหลีของอินโดนีเซีย วันที่ 12 พ.ย. 2022)
ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา จีนใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองมาสนับสนุนวิสัยทัศน์สำคัญนี้ด้วยความเชื่อมั่นอันแน่วแน่และการลงมือทำอย่างจริงจัง ซึ่งมีแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) เป็นตัวอย่างสำคัญ โดยปัจจุบันมีนานาประเทศกว่า 150 แห่ง และองค์กรระหว่างประเทศกว่า 30 แห่ง ลงนามเอกสารความร่วมมือกับปักกิ่งภายใต้แผนริเริ่มนี้

ช่วงไม่กี่ปีมานี้ สีจิ้นผิงได้เสนอแผนริเริ่มระดับโลก 3 รายการ ได้แก่ แผนริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (GDI) แผนริเริ่มความมั่นคงระดับโลก (GSI) และแผนริเริ่มอารยธรรมระดับโลก (GCI) เป็นรากฐานสำคัญของการสร้างประชาคมมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกัน และเป็นแนวทางของจีนในการจัดการความท้าทายระดับโลกที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพและการพัฒนา

เดวิด กอสเซ็ต ผู้เชี่ยวชาญชาวฝรั่งเศสด้านกิจการระหว่างประเทศและผู้ก่อตั้งการประชุมยุโรป-จีน (Europe-China Forum) กล่าวว่า ห้วงยามแห่งความหวาดกลัว ความไร้เหตุผล และความสับสนวุ่นวาย สีจิ้นผิงกำลังเรียกร้องแนวทางอันมีเหตุมีผลในการแก้ไขสารพันปัญหาที่เราเผชิญร่วมกันอย่างถูกต้อง โดยการเปิดกว้างและความมั่นคงของจีนกลายเป็นปัจจัยสร้างเสถียรภาพสำคัญในโลกที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความไม่แน่นอน
(แฟ้มภาพซินหัว : ท่าเรือแฮมบันโตตาในศรีลังกา ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางระหว่างจีนกับศรีลังกา วันที่ 28 มี.ค. 2024)

ที่มา : MgrOnline