“ชมพู่ อารยา” มั่นใจไม่เหงา ส่ง “น้องเกล” เข้าโรงเรียน ยันอวดความน่ารักตกแฟนคลับ ไม่ใช่ฝีมือแม่เทรน!
เผยแพร่ : 20 พ.ย. 2567 22:02:47
“ชมพู่ อารยา” เผย “น้องเกล” พูดไปเรื่อย จะเข้าโรงเรียนแล้ว บอกเข้าส.ค. ปีหน้า ดี๊ด๊าอยากโตเหมือนพี่ๆ อนาคตจะราบรื่นไหมยังเดาไม่ได้ มั่นใจไม่เหงา กลับมาก็ต้องเจอกันอยู่ดี ลูกสาวเอ็นจอยได้เอ็นเตอร์เทนคน เพราะคนรอบข้างน่ารักสร้างความมั่นใจให้ ไม่เคยเทรนลูกให้ทำตัวน่ารัก เข้าใจเรื่องช่วยแม่ทำงานหาเงิน
ทำแฟนๆ แอบหวั่นจะไม่ได้เห็นหน้า “น้องแอบิเกล” หรือ “น้องเกล” เหมือนทุกวัน หลังจากเจ้าตัวพูดว่าตัวเองกำลังจะเข้าโรงเรียน ล่าสุดได้เจอตัว “ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต” ที่มาเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ Oh! Juice ที่ร้าน Oh! Juice ชั้น3 สยามสแควร์วัน ชมพู่ยันน้องเกลพูดไปเรื่อย เพราะจะส่งเข้าโรงเรียนคือสิงหาคม ปีหน้า
“พูดไปเรื่อย เข้าปีหน้า ประมาณสิงหาคม เขาก็เหมือนจะพร้อมแล้ว เขาอยากจะไปโรงเรียน เขาไปส่งพี่ที่โรงเรียนทุกเช้า กลับบ้านมาก็จะสะพายเป้ บอกแม่เกลไปโรงเรียนแล้วนะ อยากโต อยากเหมือนพี่ ถึงวันนั้นจริงๆ เดาไม่ออกเลย โชคดีที่เขาไปส่งพี่ทุกวัน เขาก็จะคุ้นเคยกับที่โรงเรียน กับคุณครู กับสต๊าฟ มีทักทายกับบ่อย ก็จะรู้สเต็ปว่าต้องเดินเข้าโรงเรียนตรงนี้ ตื๊ดบัตรตรงนี้ เขาจะรู้หมด ก็หวังว่าจะราบรื่น มันเป็นอะไรที่เดาไม่ได้ ตัวแม่ก็ไม่งอแงหรอก แม่โอเคเพราะกลับมาบ้านยังไงก็ต้องมาสู้กันต่ออยู่ดี
เขาจะร้องไห้ไหม ก็ไม่แน่ เห็นตัวอย่างมาเยอะ บางทีไป 2-3 วันแรก เดินเข้าไปเลย ไม่หันหลังกลับมามอง สนุก แต่พอเขาเริ่มเข้าใจว่ามันต้องไปทุกวัน เริ่มรู้สึกว่าฉันต้องทำอย่างนี้ตลอดชีวิตเหรอ เขาก็จะเริ่มมีอาการ ก็เห็นมาหลายกรณี ตอนนี้เขาอยากจะโต อยากทำได้เท่าพี่ เป็นเจ๊ใหญ่ของบ้าน ก็ต้องมีปรามๆ บ้าง”
เอฟซีกังวลหวั่นไม่มีคอนเทนต์ให้เสพ บอกต้องไปดูหน้างาน
“เดี๋ยวเราไปว่ากันหน้างานก็แล้วกันนะ จริงๆ แม่ก็ไม่ได้จะถ่ายลงทุกวัน บางทีเราอยู่กับเขา อยู่กับโมเมนต์ตรงนั้น ก็ไม่ได้คิดเรื่องคอนเทนต์ ส่วนใหญ่ที่ออกมาจะเป็นจากคนอื่นมากกว่า เราก็ไม่เหงาหรอก เดี๋ยวเราก็กลับมาอยู่ด้วยกันอยู่ดีทุกวัน ไม่ค่อยได้ห่วงตรงนั้นเท่าไหร่ ตัวเราเองก็จะต้องจัดสรรเรื่องเวลามากขึ้น เดี๋ยวรับ-ส่งต่อไปมันก็จะไล่ๆ กับพี่ไปเอง
ความสนใจเขาอาจจะยังไม่ชัดเจน ก็ค้นหาไปเรื่อยๆ ความชอบเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ แล้วแต่ไปเจออะไรมา แล้วแต่ว่าช่วงนั้นไปเสพอะไรมา ตอนนี้เขาก็จะดูคอนเทนต์กับพี่เขา ก็เลยอาจจะโตกว่าวัย ไม่ค่อยจะหญิงมากเพราะไม่ค่อยจะได้ดูเจ้าหญิง แต่บางทีก็มีความเจ้าหญิงนะ บางจังหวะถ้าเขาเห็นก็ไปเหมือนกัน สักพักพอพี่กลับมาบ้านก็ยิงกันแล้ว
ตอนนี้พี่ทำอะไร ก็ทำตาม ต้องอีกสักพักนึงถึงจะเห็นว่าเขาฉายแววไปทางไหน อย่าง สายฟ้า-พายุ ตอนนี้เขาชัดแล้ว ยิ่งพอเข้าโรงเรียนก็จะเห็นความถนัด วิชาที่ถนัด ความชอบ กีฬา ศิลปะ ตอนนี้เกลก็จะมีบอกอยากเรียนเทควันโด้ อยากไปเตะบอล ไปเล่นบาส ไม่มีนะอยากไปเรียนบัลเล่ต์ เพราะไม่มีตัวอย่างให้เขาเห็น”
ลูกสาวเอ็นจอยได้เอ็นเตอร์เทนคน เพราะคนรอบข้างน่ารักสร้างความมั่นใจให้
“เขาไปกับเราตลอด เจอคนเยอะ คนรอบๆ เราก็น่ารักกับเขา เหมือนไปให้ความมั่นใจเขา เขาเลยค่อนข้างจะมั่นใจ เอาจริงๆ ป้าเจี๊ยบก็มีแอบสอน แอบเทรน แต่ตัวชมไม่เคยเลยนะที่จะไปบอกลูกให้ทำอย่างนั้นสิ อย่างนี้สิ แต่ป้าเจี๊ยบจะเป็นคนใส่ข้อมูล บ้านชมจะเป็นระบบเราไม่ได้มีพี่เลี้ยงแบบวันต่อวัน จะมีพี่ๆ ที่ทำงานในบ้าน มีพี่เจี๊ยบที่ช่วยชมดูแลน้องๆ ทั้ง 3 คน ฉะนั้นบางทีมันสวมหมวกหลายใบ บางทีจะไปซื้อกับข้าว ไปช้อปปิ้ง ไปซุปเปอร์ บางทีก็ต้องกระเตงเจ๊เกลไปด้วย แม่ไปทำงาน แม่ไปออกกำลังกาย ป้าก็ต้องกระเตงเจ๊ไปด้วย ก่อนจะลงจากรถก็ต้องมีบอกกัน เจอแฟนคลับต้องยกมือไหว้ ต้องให้เขาถ่ายรูปนะ ป้าเจี๊ยบก็จะเทรน ส่วนแม่ก็เป็นเจ้าของค่าย ผู้บริหาร”
เจ๊เกลเข้าใจช่วยแม่หาเงิน
“ชมว่าเขาเข้าใจคำว่าทำงานประมาณนึง เหมือนเราก็บรีฟมาว่าวันนี้มาทำงานนะ เราก็จะพยายามควบคุมปัจจัยอื่นๆ สิ่งแวดล้อมอื่นๆ ให้เขาเอ็นจอยให้ได้มากที่สุด เช่น นอนให้พอ เราต้องดีลกับเจ้าของงานว่าเราจะสแตนบายได้ไม่นาน เราต้องขอก่อนขึ้นเวทีจริงๆ เด็กเขาไม่รู้จักการประหยัดเอเนอร์จี้ พอเขามาถึงคนก็อยากมาหาเขา อยากมาเล่นด้วย เขาจะหมดพลังงานตรงนั้นของเขาไปแล้วครึ่งนึง เราก็จะพยายามเซฟให้ แล้วเราก็สอนเขาด้วยว่าวันนี้เรามาทำงานนะ แต่เราก็ต้องให้พี่ใหญ่ช่วยกันทำความเข้าใจด้วย ถามว่าเขารู้ไหมว่าทำงานแล้วได้เงิน ก็อธิบายนะ เขาอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่เขาก็รู้ว่าถ้าเขาทำงานแล้วเขาจะได้เงิน
ตอนนี้ก็มีติดต่อมาเรื่อยๆ ไม่ได้ขนาดถล่มทลาย เราก็รู้นะฟีดแบ็กคนที่เข้าหาเรามันประมาณไหน ช่วงนี้อย่างเราไปคนเดียว เจอเราคนจะตื่นเต้นมากขึ้นแล้วก็ถามหาเกล น้องมาหรือเปล่า ส่วนเคล็ดลับพาน้องออกงานคือให้นอนหลับมาให้พอ ด้วยความที่เขาไปกับชมทุกที่ เขาก็จะเข้าใจ เขาก็จะเห็นแม่ทำงานเห็นอะไร เขาก็เลยเข้าใจว่าการทำงานมันเป็นยังไง”
ที่มา : MgrOnline