ดังพลุแตก! "น้องเอวา" เสือโคร่งสีทองเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีขึ้นแท่นดาวดวงใหม่ ชาวเน็ตหลงรักความน่ารักบ้องแบ๊วจนนึกว่าเป็นแมว
เผยแพร่ : 20 พ.ย. 2567 20:35:54
• ภาพความน่ารักของน้องเอวา ถูกแชร์อย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์
• ความน่ารักของน้องเอวา ทำให้ผู้คนหลงใหลและลืมไปว่าเป็นเสือ
เชียงใหม่ -'โลกออนไลน์หลงรัก! “น้องเอวา” เสือโคร่งสีทอง วัย 3 ปี ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีกลายเป็นดาวเด่นในข้ามคืนหลังโพสต์ภาพโชว์ความน่ารัก ทำชาวเน็ตแห่แชร์ถล่มทลายเพราะหลงเสน่ห์ความบ้องแบ๊วที่ทำจนลืมไปเลยว่าเป็นเสือ
วันนี้ (20 พ.ย. 67) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า “น้องเอวา” เสือโคร่งสีทองของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีกลายเป็นว่าที่ดาวดวงใหม่ในโลกออนไลน์ที่โด่งดังในชั่วข้ามคืน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีถ่ายภาพความน่ารักของ "น้องเอวา" โพสต์ลงเฟซบุ๊กของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 67 ซึ่งด้วยความโดดเด่นแตกต่างเมื่อเทียบกับเสือโคร่งทั่วไป จากการที่ “น้องเอวา” มีขนสีน้ำตาลทองสลับกับลายสีน้ำตาลเข้ม แถมด้วยความน่ารักบ้องแบ๊วราวกับเป็นแมวน้อย ทำให้ผู้คนในโลกออนไลน์ต่างพากันตกหลุมรักแทบจะในทันที พร้อมทั้งแสดงความเห็นชื่นชมความน่ารัก และมีการแชร์ภาพออกไปเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นดาวเด่นในโลกออนไลน์ ตลอดจนคาดว่าจะเป็นขวัญใจชาวไทยและนักท่องเที่ยวในไม่ช้า
น้องเอวานั้นอยู่ในโซนของไทเกอร์เวิลด์ ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สามารถเข้าชมได้อย่างใกล้ชิด โดยมีเพียงห้องกระจกกั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่า “น้องเอวา” ตัวจริงมีนิสัยที่น่ารัก เชื่องเหมือนลูกแมว ชอบนัวเนีย และคลอเคลียกับพี่เลี้ยง รวมทั้งชอบพบผู้คน โดยเฉพาะเวลาที่นักท่องเที่ยวเข้าชมที่หน้าส่วนจัดแสดงก็ชอบที่จะเดินมาทักทายนักท่องเที่ยวที่ริมกระจก และยอมให้ถ่ายภาพอย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเที่ยวชม “น้องเอวา” ได้ในช่วงเวลา 11.00-14.00 น. เพราะหลังจากนั้นน้องจะไปเตรียมตัวแสดงโชว์ความสามารถในกิจกรรม Tiger Show ทั้งน่ารักทั้งเก่งแบบนี้น่าจะเป็นขวัญใจของชาวไทย และนักท่องเที่ยวได้ในไม่ช้า
สำหรับ “น้องเอวา” เป็นเสือโคร่งสีทอง หรือเสือโคร่งสตรอว์เบอร์รี อายุ 3 ปี เพศเมีย ซึ่งเสือโคร่งสีทอง หรือเสือโคร่งสตรอว์เบอร์รี เป็นสีที่หาได้ยาก เกิดขึ้นจากยีนด้อยที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับสีของขนบนร่างกาย เช่นเดียวกับเสือสีขาว แต่โอกาสที่จะเกิดเสือโคร่งสีทองเช่นนี้ จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากมากๆ ซึ่งปัจจุบันในโลกนี้มีจำนวนเพียงประมาณ 50-100 ตัวเท่านั้น
ที่มา : MgrOnline