"อิ๊งค์" ประชุม ก.ตร. ตั้ง 41 บิ๊กตำรวจ เลขาฯ แจงประชุมล่าช้าเพราะต้องรอบคอบ ยันไร้การเมืองแทรกแซง
เผยแพร่ : 20 พ.ย. 2567 19:51:29
• ก.ตร. มีมติแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ 41 ตำแหน่ง
• การประชุมล่าช้าเนื่องจากการพิจารณาอย่างรอบคอบและถูกต้องตามกฎหมาย
• เลขานุการ ก.ตร. ยืนยันไม่มีการเมืองแทรกแซงในการแต่งตั้ง
“แพทองธาร” ประชุม ก.ตร. แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ 41 ตำแหน่ง ด้าน เลขานุการ ก.ตร. เผย เหตุที่ประชุมล่าช้า เพราะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ถูกต้องตามกฎหมาย ยัน ไม่มีการเมืองแทรกแซง
วันนี้ (20 พ.ย.) พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ในฐานะเลขานุการ ก.ตร. แถลงภายหลังการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจ ผู้ช่วย จนถึงผู้บัญชาการ ทั้งหมด 41 ตำแหน่ง ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเสนอ โดยการหารือใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมง เนื่องจากได้ซักถาม และหารือกันอย่างละเอียด ก่อนเห็นชอบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอขึ้นมา ยืนยัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้คัดเลือกแล้ว โดยมีกระบวนการพิจารณาแต่งตั้งผ่านคณะกรรมการ ที่ประกอบไปด้วย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกคน และผู้แทนสำนักงานข้าราชการพลเรือน ที่ได้พิจารณาร่วมกันเมื่อวานนี้ ซึ่งได้ซักถามถึงกระบวนการได้มา ส่วนการพิจารณาวันนี้ได้สอบถามเทียบทานในแต่ละตำแหน่ง พร้อมย้ำว่า รูปแบบการคัดเลือกบุคคลที่พิจารณาจากบุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยได้พิจารณาทุกราย และเป็นไปตามที่กรรมการเห็นว่ามีความเหมาะสม รวมถึงได้เปรียบเทียบกับบุคคลอื่นๆ แต่สุดท้ายก็ได้บุคคลที่เหมาะสม มีความอาวุโส และมีความสามารถ
พล.ต.ท.อนุชา ระบุว่า ในที่ประชุมไม่ได้พูดกันในประเด็นที่มีกระแสข่าวว่านายตำรวจรุ่น 41 และ 42 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด ยืนยัน เป็นบุคลากรมาจากทุกตำแหน่ง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุม ได้ทำหน้าที่ตามปกติ ส่วนเหตุผลที่ใช้เวลาประชุมนานถึง 4 ชั่วโมงนั้น เนื่องจาก ก.ตร. ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยให้ความสำคัญกับตัวบุคคล และกระบวนการพิจารณาคัดเลือกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความถูกต้อง ซึ่งทุกคนใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบ ยืนยัน การพิจารณาในวันนี้พูดคุยหาเรือเพียงการแต่งตั้ง ไม่มีการพูดถึงการเมืองการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำก่อนเริ่มการประชุม ว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ ที่ใช้เวลานาน จึงนำมาสู่การพิจารณาที่ใช้เวลานาน และเมื่อที่ประชุมได้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว นายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งการอะไรเพิ่มเติม เพราะทุกอย่างแล้วได้ทำอย่างรอบคอบแล้วจึงสั่งปิดประชุม
ทั้งนี้ หากมีการฟ้องร้องถือเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล ไม่สามารถที่จะห้ามได้ แต่คิดว่าทุกประเด็นมีคำตอบ เนื่องจากการพิจารณาเป็นไปอย่างรอบคอบ
ส่วนการแต่งตั้งจะพลิกโผผู้อาวุโสหรือไม่นั้น พล.ต.ท.อนุชา ยืนยันว่า เรื่องนี้ได้พิจารณาตามกฎหมาย และเป็นไปตามพระราชบัญญัติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2565 และได้นำสภาพปัญหาต่างๆ รวมถึงแนวทางคำวินิจฉัย มาประกอบการทำงาน จึงสามารถดำเนินการได้อย่างไม่ติดขัด
ที่มา : MgrOnline