บุกค้น อ.พาณิชย์เปิดเหมืองขุดบิตคอยน์ สุดแสบหยอดสารเคมีทำเฟืองมิเตอร์หมุนช้า กฟภ.เสียหาย 1.2 ล้าน
เผยแพร่ : 20 พ.ย. 2567 17:46:14
การไฟฟ้ารังสิตพร้อมตำรวจบุกค้นอาคารพาณิชย์ 2 แห่ง โกงค่าไฟ 1,200,000 บาท เปิดเครื่องขุดบิตคอยน์ 24 ชั่วโมง ยึดเครื่องกว่า 30 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ หลังชาวบ้านร้องเสียงดังทั้งคืนนานกว่า 4 เดือน
วันนี้ (20 พ.ค.) นายประกัน บุษบงค์ รองผู้จัดการด้านเทคนิคการไฟฟ้าส่วนภูมิภาครังสิต พร้อมด้วย ร.ต.อ.เอกชลิต สีสัน รองสารวัตรสอบสวน สภ.คูคต กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูคต และ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ารังสิต ได้ร่วมกัน ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดธัญบุรี และเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 2 แห่ง หลังพบว่ามีการลักลอบใช้ไฟฟ้า มูลค่าความเสียหาย 2 ที่ รวมกันประมาณ 1,200,000 บาท
โดยที่แรกเข้าตรวจสอบภายในซอยถนนพหลโยธิน 62 แยกที่ 20 เป็นตึกอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เลขที่ 611/10 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมด้วย เจ้าของอาคารพาณิชย์ดังกล่าว เข้าร่วมตรวจสอบ (เจ้าของอาคารไม่ประสงค์ออกนาม) หลังจากทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าพบพิรุธในการใช้ไฟ โดยการตรวจสอบจากเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ผ่านหม้อแปลงไฟฟ้า พบมีกระแสไฟไหลเข้าทำงาน แต่มิเตอร์ไม่หมุน และในการจ่ายค่าไฟเป็นศูนย์จึงทำการตรวจสอบ พบว่า มีการเจาะด้านหลังหม้อแปลงไฟฟ้าแล้วใช้สารเคมีบางอย่างหยอดที่เฟืองเพื่อไม่ให้เฟืองหมุน นอกจากนั้น บริเวณชั้น 4 ยังพบเครื่องมืออุปกรณ์ บิตคอยน์ จำนวน 18 เครื่อง ทำงานเสียงดังกระหึ่ม อยู่บริเวณชั้น 4 ของตึกดังกล่าว ตีล้อมด้วยไม้อัด และพัดลมเป่าความร้อน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนความเสียหายในครั้งนี้ เบ็ดเสร็จแล้วรวมค่าปรับด้วยประมาณ 620,000 บาท
จากการสอบถามเจ้าของตึกดังกล่าว กล่าวว่า มีชายวัยรุ่น 2 คน มาขอเช่าทำสัญญาเช่าตั้งแต่ปลายเดือน กรกฎาคม คร่าวๆ นับถึงวันนี้ก็ประมาณ 4 เดือน ซึ่งหลังจากทำสัญญาเช่าก็ไม่เคยพบเจอวัยรุ่นดังกล่าวอีกเลย นอกจากจะโทร.ไปสอบถามเรื่องค้างค่าเช่าล่าช้าก็ไม่มีการรับสายสักพักนึงกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็จะโอนตังค์เข้ามาให้ตน โดยตนให้เช่านั้นราคาเดือนละ 8,000 บาท ทราบชื่อในสัญญาเช่าชื่อ นายภัชรกร สายทอง อายุ 27 ปี
ส่วนจุดที่สอง ภายในซอยพหลโยธิน 60/1 เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ไม่มีเลขที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยรับแจ้งจากการไฟฟ้าว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นอาคารตึกร้าง ลักษณะเหมือนไม่มีคนอยู่แต่จะได้ยินเสียง เหมือนเครื่องอะไรกำลังทำงานจากชาวบ้านที่แจ้งมา จึงให้เจ้าหน้าที่วัดกระแสไฟพบกระแสไฟจากมิเตอร์ วิ่งเข้าภายในตัวตึก จึงร่วมกับเจ้าที่ตำรวจทำการตัดกุญแจเพื่อตรวจสอบภายในพบบริเวณชั้น 3 มีอุปกรณ์บิตคอยน์ จำนวน 12 ตัว ทางเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าและเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการยึดไว้เป็นของกลาง ความเสียหายครั้งนี้ประมาณ 620,000 บาทเช่นกัน เปิดให้เช่ามาแล้วประมาณ 4 เดือน คาดว่า น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันจึงนำของกลางทั้งหมดไปที่ สภ.คูคต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทางด้าน นายประกัน บุษบงค์ รองผู้จัดการด้านเทคนิคการไฟฟ้าส่วนภูมิภาครังสิต กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากที่มีผู้ใช้ไฟฟ้าอยู่ในอาคารบริเวณที่เราตรวจพบนั้น เป็นลักษณะอาคารที่ไม่มีผู้อยู่อาศัย เหมือนอาคารร้างทั้งสองจุด แล้วผู้ใช้ไฟได้ยินเสียงพัดลมทำงานเสียงดัง จึงได้มีการติดจต่อแจ้งมายังการไฟฟ้า เราจึงได้เข้าไปตรวจสอบพบว่ามีการใช้ไฟแต่มิเตอร์ไม่หมุน ซึ่งเราจึงได้ทำการตรวจสอบก็พบว่ามีการใช้ไฟจริง แต่น่าจะมีการดัดแปลง ละเมิดที่ตัวมิเตอร์ เราก็เลยเข้าไปตรวจสอบก็พบว่ามีการละเมิดจริงๆ
ในเบื้องต้นจึงได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.คูคต ซึ่งมีการละเมิดด้วยกัน 2 จุด โดยได้มาแจ้งความและทางตำรวจได้ทำการขอหมายค้นและเข้าไปตรวจค้น โดยจุดแรกได้ทั้งหมด 18 เครื่อง และจุดที่สองได้ทั้งหมด 12 เครื่อง รวมทั้งหมด 30 ชุด โดยความเสียหายเฉลียแต่ละที่ใน 1 เดือน ค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 1 แสนบาท ซึ่งตอนนี้เราก็กำลังตรวจสอบว่า เขามาขอติดตั้งนานหรือยังเรายังอยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยคาดว่าค่าเสียหายประมาณหลักล้านบาท
ที่มา : MgrOnline