เหตุช็อกแดนมังกรเคสที่สามในหนึ่งสัปดาห์! ชายจีนขับรถยนต์พุ่งชนเด็กนักเรียนหน้า ร.ร.ประถมศึกษา เจ็บระนาว! (มีคลิป)
เผยแพร่ : 20 พ.ย. 2567 14:53:18
• เหตุการณ์เกิดขึ้นเช้าวันที่ 18 พฤศจิกายน
• มีผู้ได้รับบาดเจ็บ (จำนวนไม่ระบุในเนื้อหา)
เกิดเหตุช็อกสังคมจีนอีก! รถยนต์เอสยูวีสีขาวคันหนึ่งพุ่งเข้าชนเด็กนักเรียนหน้าโรงเรียนชั้นประถมศึกษาในเมืองฉางเต๋อ มณฑลหูหนันในเช้าวันที่ 18 พ.ย.
ด้านตำรวจเผยว่า ผู้บาดเจ็บถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล และไม่มีใครบาดเจ็บสาหัส
ชาวเน็ตจีนได้แชร์วิดีโอภาพผู้ปกครองและเด็กนักเรียนหลายคนนอนบาดเจ็บบนถนน และภาพเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียน และผู้ปกครองได้ช่วยกันจับตัวชายวัย 39 ปี ผู้ก่อเหตุ
นับเป็นเหตุการณ์ช็อกสังคมจีนกรณีที่สามที่อุบัติขึ้นภายในช่วงหนึ่งสัปดาห์มานี้ โดยอีกสองกรณี ได้แก่
- เหตุการณ์รถยนต์เอสยูวีคันหนึ่งพุ่งเข้าชนฝูงชนที่สนามกีฬาเมืองจูไห่ มณฑลกว่างตงในวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย บาดเจ็บ 43 ราย
ขณะนี้ตำรวจได้ตั้งข้อหาชายวัย 62 ปี ผู้สารภาพว่าตนเป็นผู้ขับรถพุ่งชนฝูงชนที่สนามกีฬาเมืองจูไห่ ตำรวจยังได้เผยถึงแรงจูงใจก่อเหตุร้ายแรงนี้ว่ามาจากความไม่พอใจสินสมรสที่ตนได้รับหลังการตัดสินคดีการหย่าร้าง
- เหตุการณ์หนุ่มจีนไล่แทงเด็กนักเรียนในโรงเรียนฝึกฝนอาชีพด้านศิลปะและเทคโนโลยีประจำเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู ทางภาคตะวันออกของจีน มีเหยื่อเสียชีวิต 8 คน และผู้บาดเจ็บ 17 ราย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเย็นวันเสาร์ (16 พ.ย.) ที่ผ่านมา
ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัย 21 ปี และเผยว่าชายมือมีดผู้นี้มีประวัติการสอบไม่ผ่านและชวดได้ใบประกาศนียบัตรจากโรงเรียนฝึกฝนอาชีพเมืองอู๋ซีแห่งนี้ ต่อมาเขายังมีความโกรธแค้นเรื่องได้รับค่าจ้างต่ำระหว่างฝึกงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง
เหตุการณ์สะเทือนใจที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนี้ จุดกระแสถกเถียงในโลกโซเชียลมีเดีย หัวข้อสุขภาพจิตในจีน ความเครียดที่ยิ่งฝังลึกในจีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก แต่คนหนุ่มสาวต้องเผชิญปัญหาชีวิตเลวร้ายยิ่งกว่าชั่วรุ่นก่อนหน้าที่ได้รับผลพวงประโยชน์จากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของประเทศ
“กรณีเหตุการณ์ประทุษร้ายผู้อื่นเมื่อไม่นานมานี้ เป็นพฤติกรรมมแก้แค้นสังคม ซึ่งเป็นลักษณะร่วมอย่างหนึ่งในจีน ผู้ต้องสงสัยที่ด้อยโอกาสในสังคม หลายคนมีปัญหาทางจิตใจ พวกเขาคิดว่าตนถูกปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม และรู้สึกว่าไม่มีใครฟังพวกเขา ดังนั้น จึงควรมีการจัดตั้งกลไกการปรึกษาเชิงจิตวิทยาและจัดมาตรการปลอดภัยในสังคม” ส่วนหนึ่งของข้อความเสนอแนะที่โพสต์บนเวยปั๋ว
ที่มา : MgrOnline