รวบผัว-เมีย ตุ๋นขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ เหยื่อโอนเงินแล้วเชิดหนี

เผยแพร่ : 20 พ.ย. 2567 12:42:53
X
• ผู้ต้องหาหลอกขายสินค้าออนไลน์หลากหลายชนิด
• วิธีการคือรับเงินแล้วไม่ส่งสินค้าและติดต่อไม่ได้
• เหยื่อหลงเชื่อโอนเงิน

ตำรวจสืบนครบาลจับกุมสามี-ภรรยา หลอกขายสินค้าหลากชนิดผ่านช่องทางออนไลน์ พอเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินแล้ว ไม่ยอมส่งสินค้าติดต่อไม่ได้

วันนี้ (20 พ.ย.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.จับกุมตัวนางสาวมารินทร์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 1.หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 127/2566 ลงวันที่ 2 มีนาคม 2566 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน 2.หมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 147/2565 ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2565 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน 3.หมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 100/2566 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน 4.หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1441/2567 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน และ 5.หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1447/2567 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน

ทั้งนี้ยังจับกุมตัวนายธนวิชญ์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 339/2567 ลงวันที่ 5 เมษายน 2567 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน สามารถจับกุมได้ที่บริเวณถนนไม่ทราบชื่อ ม.2 ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์

โดยพฤติการณ์กล่าวคือ นายธนวิชญ์ และนางสาวมารินทร์ ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน มีพฤติกรรมหลอกขายของออนไลน์ทุกชนิด อาทิเช่น บัตรคอนเสิร์ต เสื้อผ้า กระเป๋า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอีกหลายรายการ มีการแจ้งเตือนในเว็บไซต์ Blacklistseller ทั้งหมดจำนวน 49 รายการ โดยมีพฤติการณ์คือการลงขายสินค้าตามกลุ่มต่างๆ ในเฟสบุ๊คในราคาถูก เมื่อมีผู้สนใจเข้ามาสอบถามก็จะพยายามส่งหลักฐานเอกสารต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ซื้อสินค้า จนผู้ซื้อสินค้ามั่นใจว่ามีตัวตนแน่นอนและทำการโอนให้ นายธนวิชญ์ และนางสาวมารินทร์ ก็จะขาดการติดต่อไปทันทีและไม่ได้มีการส่งสินค้าให้แก่ผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้หลงเชื่อและถูกหลอกเป็นจำนวนมาก แม้มูลค่าจะไม่สูงมากนัก แต่เป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงต้องรีบสืบสวนติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็ว

กระทั่งเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่านายธนวิชญ์ และนางสาวมารินทร์ ได้หลบหนีไปอยู่กับแม่ของนายธนวิชญ์ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้นำกำลังไปเฝ้าจุดเพื่อจับกุม นายธนวิชญ์ และนางสาวมารินทร์ ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. พบรถต้องสงสัยที่คาดว่านายธนวิชญ์ และนางสาวมารินทร์จะใช้ขับผ่านมา จึงได้เข้าปิดล้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายจับให้นายธนวิชญ์ กับนางสาวมารินทร์ ทราบและแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมาย

ในชั้นจับกุม จากการซักถามนายธนวิชญ์ และนางสาวมารินทร์ให้การยอมรับแค่บางส่วน โดยบอกว่าเคยทำเองจริงเมื่อในอดีต แต่ปัจจุบันได้มีการขายบัญชีและเฟสบุ๊คของตนเองไปแล้ว และไม่ได้ทำเรื่องดังกล่าวอีก ปัจจุบันได้ประกอบอาชีพขายผลไม้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อแต่อย่างใด จะได้ทำการขยายผลต่อไป จากนั้นได้นำตัวนำตัว นางสาวมารินทร์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ และนำตัวนายธนวิชญ์ ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ถือเป็นภัยสังคม หลอกประชาชนเป็นจำนวนมาก ต้องรีบดำเนินการจับกุมให้เร็วที่สุด และขอฝากเตือนประชาชน ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะการทำธุรกรรมออนไลน์ หรือช็อปปิ้งออนไลน์ มักจะมีมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่เสมอ วิธีป้องกัน ควรตรวจสอบที่มาที่ไปของเว็บไซต์, การตรวจสอบบัญชีต่างๆ ข้อมูลผู้ขายให้ถี่ถ้วน หรือแม้กระทั่งการรีวิว ห้ามหลงกลในโปรโมชันล่อใจ เช็กแพ็กเกจ เลือกซื้อของจาก Official store หรือแพลตฟอร์มที่ไว้ใจได้ มีการลงทะเบียนร้านค้าโดยใช้ข้อมูลจริง นำเลขที่บัญชีหรือชื่อของผู้ขายไปค้นหาบน Google เพื่อที่จะหาประวัติว่าเคยมีคนโพสต์เกี่ยวกับการฉ้อโกงในการซื้อของหรือไม่ เก็บหลักฐานการโอนเงินไว้เสมอ สุดท้ายหากตกเป็นเหยื่อ โทรหาศูนย์ AOC 1441 พร้อมช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง โทรทันที เมื่อได้รับความเดือดร้อนจากมิจฉาชีพออนไลน์



ที่มา : MgrOnline