* คลาวด์พีซี (Cloud PC) กำลังเป็นที่นิยมในองค์กรธุรกิจ * คลาวด์พีซีเสนอวิธีการทำงานที่ปลอดภัยมากขึ้น * พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลจาก Virtual Desktop บนคลาวด์ได้ * คลาวด์พีซีช่วยให้การทำงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
เทรนด์การใช้งานคลาวด์พีซี หรืออุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์เสมือนที่อยู่บนคลาวด์ กลายเป็นรูปแบบการทำงานที่ปลอดภัยขององค์กรธุรกิจยุคใหม่ ที่เปิดทางให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลจาก Virtual Desktop ที่ติดตั้งบนโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัย และเข้าถึงได้จากทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล

Windows 365 Link เป็นอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ ไมโครซอฟท์นำเสนอภายในงาน Microsoft Ignite 2024 ซึ่งเป็นงานประชุมนักพัฒนาประจำปี พร้อมกับการอัปเกรดฟีเจอร์ AI ใน Microsoft Copilot ให้มีความสามารถที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการนำไปใช้ในองค์กรธุรกิจ

โดยโซลูชัน Cloud PC เริ่มถูกนำเสนอให้แก่ภาคธุรกิจที่ต้องการปรับเปลี่ยนการใช้งานคอมพิวเตอร์ จากการที่พนักงานแต่ละคนมีอุปกรณ์ หรือพีซีองค์กรของตนเอง กลายมาเป็นอุปกรณ์ที่เรียกว่า Cloud PC ใช้ในการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เชื่อมต่อกับจอมอนิเตอร์ เมาส์ คีย์บอร์ด ล็อกอินเข้าใช้งาน Virtual Desktop ที่อยู่บน Microsoft Cloud ได้จากทุกที่ทุกเวลา

ประโยชน์ของการใช้งานคอมพิวเตอร์เสมือนนี้ คือองค์กรไม่จำเป็นต้องลงทุนโน้ตบุ๊ก หรือเดสก์ท็อป ที่มีรอบต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ทุก 3-5 ปี แต่สามารถเลือกเช่าใช้ Virtual Desktop ที่สามารถปรับแต่งประสิทธิภาพในการประมวลผลให้เข้ากับลักษณะงานของแต่ละบุคคลได้ และมีการนำเสนอในหลากหลายรูปแบบทั้งเป็นเหมือนแฮนดี้ไดรฟ์ที่เชื่อมต่อจอมอนิเตอร์

จนถึง Windows 365 Link รุ่นใหม่นี้ที่ออกแบบมาในลักษณะของคอมพ์จิ๋ว ทรงสี่เหลี่ยม น้ำหนักเบา ที่สามารถเชื่อมต่อกับจอมอนิเตอร์ความละเอียด 4K ได้สูงสุด 2 จอ โดยไม่มีพัดลมระบายอากาศภายใน มีพอร์ต USB ไว้เชื่อมต่อเมาส์ คีย์บอร์ด หรือจะใช้การเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ 5.3 ก็ได้ ตัวเครื่องยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต LAN และรองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6E ด้วย

ส่งผลให้ลักษณะของ Windows 365 Link มีลักษณะคล้ายมินิพีซี ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าไปใช้งานเวอร์ชวลเดสก์ท็อปประสิทธิภาพสูงได้จากทุกที่ รองรับการใช้งาน Microsoft Teams หรือ Webex หรือบรรดาเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานออนไลน์ต่างๆ

จุดเด่นสำคัญของ Windows 365 Link คือจะไม่มีการเก็บข้อมูลไว้ภายในตัวเครื่อง ซึ่งรวมถึงโปรแกรมที่ติดตั้ง ข้อมูลสำคัญที่ใช้ในองค์กรธุรกิจ ซึ่งจะถูกปกป้องข้อมูลด้วยมาตรฐานความปลอดภัยของ Microsoft Cloud ซึ่งผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าเชื่อมต่อได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที

เบื้องต้น Windows 365 Link จะเริ่มทำตลาดในช่วงเมษายนปี 2025 ในออสเตรเลีย แคนาดา เยอรมนี ญีปุ่น นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ในราคาเริ่มต้นราว 349 เหรียญ

อัปเดต Copilot ชุดใหญ่

นอกจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว ไมโครซอฟท์ยังได้อัปเดตข้อมูลการนำ Copilot ไปใช้งานภายในองค์กร โดยที่ปัจจุบันบริษัทในกลุ่ม Fortune 500 มีการนำ Microsoft 365 Copilot ไปใช้งานถึง 70% สะท้อนให้เห็นถึงผลสำรวจในการนำ Gen AI ไปใช้งาน ซึ่งพบว่า 75% ขององค์กรธุรกิจระบุว่า ทุกๆ 1 เหรียญที่ลงทุนไปจะได้รับประโยชน์กลับมาถึง 3.7 เหรียญ

พร้อมกันนี้ ยังพัฒนาความสามารถใหม่ใน Microsoft 365 Copilot เพื่อช่วยลดความซับซ้อนของภาระงานในแต่ละวัน อย่างเช่น Copilot Actions ให้ทุกคนสามารถทำงานประจำวันแบบอัตโนมัติได้ง่ายๆ เพียงแค่กรอกคำสั่งในช่องว่าง ไม่ว่าจะเป็นการสรุปการประชุมแบบรายวันใน Microsoft Teams การรวบรวมรายงานประจำสัปดาห์ หรือสรุปการประชุม การพูดคุย และอีเมลต่างๆ เมื่อกลับจากวันหยุดพักร้อน

รวมถึงการพัฒนาผู้ช่วยใหม่ใน Microsoft 365 อย่าง Agent in SharePoint ผู้ช่วย AI ที่จะทำงานโดยใช้ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ ไฟล์ และโฟลเดอร์ SharePoint ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ค้นหาคำตอบจากเนื้อหาเหล่านั้นได้ง่าย และตัดสินใจได้เร็วขึ้น ไปจนถึง Interpreter ฟีเจอร์ผู้ช่วยใน Teams ด้วยการแปลคำพูดภาษาหนึ่งเป็นคำพูดอีกภาษาหนึ่งแบบเรียลไทม์

นอกจากนี้ ยังเริ่มทดลองใช้งาน The Employee Self-Service Agent ในการตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ ภายในองค์กร ช่วยลดความซับซ้อนในกระบวนการทำงานของฝ่ายทรัพยากรบุคคลและไอที อย่างการอธิบายสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้พนักงานเข้าใจ

ที่มา : MgrOnline