* รมว.นฤมล เชิญคนไทยร่วมงานวันดินโลกและการประชุมจัดการทรัพยากรดินและน้ำ * งานนี้หวังสร้างความสำเร็จในสายตาชาวโลก * มุ่งผลักดันบทบาทไทยในเวทีโลกด้านการจัดการทรัพยากร * เป้าหมายสำคัญคือการแก้ปัญหาเรื่องรายได้เกษตรกร
“รมว.นฤมล” เชิญคนไทย ร่วมงานเฉลิมฉลองวันดินโลก-การประชุมจัดการทรัพยากรดินและน้ำ เชื่อ ความสำเร็จจะอยู่ในสายตาของนานาชาติ ผลักดันให้ไทยมีบทบาทเพิ่มขึ้นในเวทีโลก สู่การแก้ปัญหารายได้ให้เกษตรกร


วันนี้ (19 พ.ย.) ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกทั้ง 2 งาน ได้แก่ วันดินโลกของไทย ระหว่างวันที่ 5-11 ธ.ค.นี้ ที่ศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ดินและนำ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และการประชุมนานาชาติว่าด้วยการจัดการทรัพยากรดิน และน้ำ เพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน ระหว่างวันที่ 9-11 ธ.ค ที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ อย่างเช่น งานวันดินโลกจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก และจะมีอีกหลายประเทศเฉลิมฉลองร่วมไปกับเรา เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และในวันที่ 5 ธ.ค.สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดงานวันดินโลกในปีนี้ด้วย

ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีหลายกรมที่มีความเกี่ยวข้องกับดิน เช่น กรมพัฒนาที่ดิน ที่มีท่านอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้กำกับดูแล หรือจะเป็นสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.ที่ ท่านอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ดูแลอยู่ และยังมี กรมพัฒนาการเกษตร นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกรมที่ดูแลเรื่องทรัพยากรน้ำที่สอดคล้องไปกับเรื่องดิน อย่างเช่น กรมชลประทาน กรมฝนหลวง และกรมส่งเสริมทางเกษตร ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯเราทำงานถวายแด่พ่อหลวง ร.9 มาอย่างยาวนาน เพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทย

อย่างไรก็ตาม การจัดงานทั้ง 2 งานจะสำเร็จได้ก็ต้องขอเชิญชวนประชาชนเข้าเยี่ยมชมงาน และเป็นเจ้าภาพร่วมกัน เพราะงานที่กำลังจะเกิดขึ้น จะอยู่ในสายตาของนานาชาติ เราจะได้มีบทบาทนำเพิ่มขึ้นไปอีกในเวทีโลก และเพื่อจะได้ขับเคลื่อนงานภาคการเกษตร เพื่อให้ผลประโยชน์เกิดกับพี่น้องเกษตรกรไทย

”วันนี้คือ จะทำอย่างไรให้ยกระดับรายได้ให้เกษตรกร และทำให้ความยากจนหมดสิ้นไป เราจึงหวังว่า การทำงานร่วมกันของภาคราชการ เอกชน รวมถึงภาคประชาสังคม อย่างเช่น หมอดินอาสา เกษตรกร ขับเคลื่อนไปในทิศทางสู่เป้าหมายเดียวกัน จะสามารถประสบความสำเร็จได้ และยิ่งหากได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ หากเขาเห็นความสำคัญ และนำความรู้ ประสบการณ์ และเทคโนโลยีที่มีเข้ามาร่วมช่วยขับเคลื่อนประเทศไทย เราก็จะบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น” ศ.ดร.นฤมล กล่าว

ที่มา : MgrOnline