* พบซากพะยูนวัยรุ่น 2 ตัว ที่กระบี่และตรัง * ผลผ่าพิสูจน์พบทั้งสองตัวผอมมาก * พบหญ้าในกระเพาะอาหารเล็กน้อย * สาเหตุการตาย คาดว่ามาจากความอ่อนแอและการเจ็บป่วย เนื่องจากกินอาหารได้น้อย
ตรัง - ทีมสัตวแพทย์ ศวอล.เผยผลผ่าพิสูจน์ซากพะยูนวัยรุ่น 2 ตัว ทั้งจากทะเลกระบี่และทะเลตรัง พบสภาพคล้ายกันคือ มีลักษณะผอมผิดปกติและมีหญ้าภายในกระเพาะเล็กน้อย ทำให้พะยูนอ่อนแอและป่วยตาย

วันนี้ (19 พ.ย.) ทีมสัตวแพทย์จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) ได้ทำการผ่าชันสูตรซากพะยูนเกยตื้นอย่างละเอียด จำนวน 2 ตัว โดยตัวแรกเป็นพะยูน เพศเมีย ช่วงวัยรุ่น ความยาว 186 ซม. รับซากมาจากทะเลกระบี่ พบเกยตื้นตายที่ท่าเรือเกาะปู อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ส่วนตัวที่ 2 เป็นพะยูน เพศเมีย ช่วงวัยรุ่น ความยาว 185 ซม. เกยตื้นตายในทะเลตรัง หาดสบาย ทางทิศตะวันตกของเกาะมุกด์ อ.กันตัง จ.ตรัง โดยทั้ง 2 ตัวพบว่าความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในเกณฑ์ผอม แต่ตัวที่รับจากทะเลตรังผอมผิดปกติ ทั้ง 2 ตัว มีหญ้าภายในกระเพาะเพียงเล็กน้อย แต่ไม่พบบาดแผลฉกรรจ์หรือบาดแผลจากเครื่องมือประมง

ทั้งนี้ ผลจากการชันสูตรพะยูนตัวที่รับมาจากทะเลกระบี่ เมื่อเปิดผ่าดูอวัยวะภายในพบว่า กล้ามเนื้อบริเวณคอบวมน้ำ พบน้ำสีแดงใสในถุงหุ้มหัวใจ และก้อนลักษณะคล้ายไขมันพอกหัวใจ ภายในหัวใจห้องบนขวาและล่างขวา พบก้อนลักษณะเป็นลิ่มสีเหลือง (chicken fat clot) พบเศษทรายภายในหลอดลม เนื้อเยื่อปอดสีไม่สม่ำเสมอและมีเลือดคั่ง ส่วนของทางเดินอาหาร พบอาหารในกระเพาะอาหารจำพวกหญ้าทะเลเล็กน้อย หนักประมาณ 500 กรัม และพบพยาธิอัดแน่นในกระเพาะอาหาร แต่ไม่พบสิ่งแปลกปลอมในทางเดินอาหาร สรุปสาเหตุการตายคาดว่า ป่วยจากภาวะก้อนลิ่มอุดตันภายในหัวใจ ร่วมกับป่วยเรื้อรังจากภาวะปอดผิดปกติ ทำให้สัตว์อ่อนแอและจมน้ำตายในที่สุด

ส่วนพะยูนตัวที่รับมาจากทะเลตรัง เมื่อเปิดผ่าดูอวัยวะภายในพบว่า อวัยวะภายในส่วนใหญ่เน่าสลาย ไม่สามารถระบุรอยโรคได้ชัดเจน กล้ามเนื้อฝ่อลีบ ส่วนของทางเดินอาหาร พบอาหารในกระเพาะอาหารจำพวกหญ้าทะเลเล็กน้อย น้ำหนักประมาณ 400 กรัม และพบพยาธิตัวกลมอัดแน่นในกระเพาะอาหาร แต่ไม่พบสิ่งแปลกปลอมในทางเดินอาหาร และไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้แน่ชัด เนื่องจากสภาพซากเน่ามาก แต่คาดว่ามีภาวะป่วยเรื้อรัง จากการสังเกตว่ามีเพรียงเกาะมาก และพะยูนผอมผิดปกติ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อ และอาหารในกระเพาะอาหารของพะยูนทั้ง 2 ตัว ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไป ส่วนซากเจ้าหน้าที่ได้ทำการฝังกลบภายในศูนย์วิจัย


ที่มา : MgrOnline