น้ำมันขึ้นผวาวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนขยายวง ทองพุ่ง-หุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน

เผยแพร่ : 19 พ.ย. 2567 04:47:20
X
• ราคาทองคำฟื้นตัว ได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
• ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน สะท้อนความคาดหวังต่อนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

ตลาดน้ำมันขยับขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครน ปัจจัยนี้ดันราคาทองคำฟื้นตัว ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน คาดหมายการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างๆ ที่เอื้ออำนวยจากรัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ในการกลับลำทางนโยบายครั้งสำคัญของวอชิงตัน รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯ มอบให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย รอยเตอร์รายงานอ้างอิงเจ้าหน้าที่อเมริกา 2 คนและแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.)

วังเครมลินระบุในวันจันทร์ (18 พ.ย.) รัสเซียจะตอบโต้ในสิ่งที่เรียกว่าการตัดสินใจที่ขาดความยั้งคิดของรัฐบาลไบเดน หลังจากเคยเตือนหลายครั้งก่อนหน้านี้ ว่าการตัดสินใจลักษณะดังกล่าวจะเพิ่มความเสี่ยงแห่งการเผชิญหน้ากับพันธมิตรนาโตที่นำโดยสหรัฐฯ

สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเป็นอย่างสูงในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ตามหลังมีข่าวว่าสหรัฐฯ ไฟเขียวให้ยูเครนใช้อาวุธที่มอบให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย กระตุ้นให้นักลงทุนถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำฟื้นตัวแรงในวันจันทร์ (18 พ.ย.) โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 45.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,615.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันจันทร์ (18 พ.ย.) นักลงทุนคาดหวังต่อรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของเอ็นวิเดีย ผู้นำด้านเอไอ ขณะที่เทสลา พุ่งขึ้นจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายที่เอื้ออำนวยโดยรัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์

ดาวโจนส์ ลดลง 55.39 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 43,389.60 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.00 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,893.62 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 111.69 จุด (0.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,791.81 จุด

เอ็นวิเดีย มีกำหนดรายงานผลประกอบการในวันพุธ (20 พ.ย.) ซึ่งนักลงทุนจะประเมินอุปสงค์สำหรับชิปและความยั่งยืนของเอไอ ยูโฟเรีย ที่เป็นตัวขับเคลื่อนตลาดเป็นส่วนใหญ่ในปีนี้

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หลังจาก ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาอย่างเด็ดขาด แม้ปัจจัยนี้เริ่มอ่อนแรงลงแล้วในระยะหลัง

(ที่มา : รอยเตอร์)

ที่มา : MgrOnline