“ภูมิธรรม” กำชับ ปปง. ตามยึดทรัพย์ “ดิไอคอน” อย่างใกล้ชิด เรียกความเชื่อมั่น

เผยแพร่ : 18 พ.ย. 2567 18:19:48
X
• รองนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมสำนักงาน ปปง. เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี “ดิไอคอนไซน์”
• พบความเสียหายจากคดี “ดิไอคอนไซน์” มีมูลค่าสูง
• ปปง. ยึดทรัพย์สินได้แล้วกว่า 320 ล้านบาท
• คดีความเกี่ยวข้องกับ “ทนายตั้ม” อยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด

MGR Online - รองนายกฯ เยี่ยม ปปง. เร่งตามทรัพย์ดิไอคอน” พบความเสียหายสูง ด้านเลขาฯ ปปง. เผย ยึดทรัพย์แล้ว 320 ล้าน-คดี “ทนายตั้ม” อยู่ระหว่างตรวจสอบทรัพย์จากกระทำผิด

วันนี้ (18 พ.ย.) เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่คณะผู้บริหารสำนักงาน ปปง. โดยมี พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผู้ช่วยรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรี, นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการ ปปง., นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง ว่า วันนี้ตั้งใจมาตรวจเยี่ยมการทำงานของ ปปง. ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญและความหวังของประชาชนจัดการปัญหาคดีอาชญากรรมสมัยใหม่ให้เท่าทัน โดยตนได้กำชับให้ ปปง. ต้องทันการเปลี่ยนแปลงของคดีอาชญากรรม คดีฉ้อโกงที่ล้วนมีการฟอกเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง กลไกการยึดทรัพย์จึงสำคัญ ทั้งคดียาเสพติด พนันออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมาตรการยึดทรัพย์จึงสำคัญมาก นอกจากนี้ให้ใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดการกับคดีที่สลับซับซ้อน

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า สำหรับคดี ดิไอคอน มีหน่วยงานหลักดูแล ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ สำนักงาน ปปง. ซึ่งทั้ง 3 หน่วยได้ประสานงานร่วมกัน ทราบว่า ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละองค์กร โดยย้ำว่าคดีนี้ประชาชนมีความคาดหวังและต้องทำให้บรรลุผล ไม่อยากให้ปล่อยผ่าน ทั้งนี้ หลังจากตนเดินทางกลับจาก สปป.ลาว ประชุมรัฐมนตรีกลาโหม อาเซียน ประมาณวันที่ 22 พ.ย. 67 จะเรียกทั้ง 3 หน่วยงานมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดี ดิไอคอน เพราะมีมูลค่าความเสียหายค่อนข้างสูงและกระทบประชาชนจำนวนมาก โดยเลขาธิการ ปปง. ยังให้ความมั่นใจว่าคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าและติดตามอย่างใกล้ชิด

ต่อข้อถามว่าเรื่องดิไอคอนมีการเปิดไปสู่คดีตบทรัพย์อื่นๆ จะเป็นการเบี่ยงประเด็นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องทำงานตามกรอบข้อเท็จจริง เป็นเรื่องสมดุลเหมาะสม โดยเรื่องตบทรัพย์ถ้าไม่ทำก็อาจจะถูกมองว่ามีการตกลงกัน เชื่อว่าการทำงานอยู่ในสายตาและมีความเคร่งครัด

ด้าน นายเทพสุ กล่าวว่า สำนักงาน ปปง. ดำเนินการอายัดทรัพย์เงินในบัญชีเงินฝาก หุ้น เงินเหรียญดิจิทัลต่างๆ รวมกว่า 320 ล้านบาท โดยใช้อำนาจตามคณะกรรมการธุรกรรม ปปง. และ เลขาธิการ ปปง. ในกรณีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งเป็นทรัพย์สินคนละส่วนกับที่ดีเอสไอและตำรวจสอบสวนกลางยึดไว้ และยังอยู่ระหว่างตรวจสอบทรัพย์ของบอสอื่นที่ยึดมายังไม่ครบ ทั้ง 18 บอส

“โดยสัปดาห์หน้า ปปง.จะมีการประกาศคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย สามารถเดินทางมา ปปง. หรือผ่านช่องทางออนไลน์ ส่งเอกสารคุ้มครองทางไปรษณีย์ เพื่อเฉลี่ยทรัพย์คืน แต่ทั้งนี้ การเฉลี่ยทรัพย์คืน ปปง. มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานความเสียหายทั้งหมด เสนอคณะกรรมการธุรกรรม ปปง. ส่งเรื่องพนักงานอัยการ สั่งฟ้องศาลแพ่ง”

เลขาฯ ปปง. ยังกล่าวด้วยว่า ล่าสุด ตำรวจได้ส่งคดีของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” ที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้งกรณี 39 ล้านบาท หรือ 71 ล้านบาท และเงินก้อนอื่นๆ มาให้คณะกรรมการธุรกรรม ปปง. มีมติพิจารณาตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับกระทำความผิดเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการยึดอายัดต่อไป

ที่มา : MgrOnline