"หลวงพี่น้ำฝน" ถามหา "พระปีนเสา" ท่านอยู่ไหนเดี๋ยวไปหา ถ้าจะมาพบเชิญทนายธรรมราชมาด้วย

เผยแพร่ : 18 พ.ย. 2567 17:47:36
X
• หลวงพี่น้ำฝน ยืนยันบทบาทตนเป็นเพียงตำรวจพระ มีหน้าที่นำตัวพระธีระส่งเจ้าอาวาสเท่านั้น
• หลวงพี่น้ำฝน แสดงความเห็นว่า การพูดจาท้าทายของทนายธรรมราช อาจทำให้ลูกศิษย์ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ จนเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ เช่น การถูกทำร้ายร่างกาย

นครปฐม - หลวงพี่น้ำฝนยินดีต้อนรับพระธีระ ให้ดีชวนทนายธรรมราชมาด้วย ย้ำอาตมาเป็นตำรวจพระ มีหน้าที่นำศาลและคุมตัวไปส่งเจ้าอาวาสเท่านั้น พร้อมให้ความเห็นกรณีทนายพูดจาท้าทาย ทำให้ลูกศิษย์ไม่พอใจอาจควบคุมไม่ได้แล้วถูกตบแบบที่หน้ากองปราบ เป็นเรื่องที่ยากเกินควบคุมไม่อยากให้เกิดอีก และมันน่าอาย

วันนี้ (18 พ.ย.) จากกรณีที่ทนายธรรมราช ได้มีการไลฟ์สดในการพูดคุยกับทนายพัฒน์ ในเพจ ทนายธรรมราช The Lawyer of legality เมื่อคืนวันที่ 16 พฤศจิกายน 67 ที่ผ่านมา โดยมีการพาดพิงมาถึงกรณีหลวงพี่น้ำฝน กับพระครูปลัดธีระ หรือพระปีนเสา ซึ่งมีการพบกัน 2 ครั้งก่อนที่เจ้าอาวาสวัดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี จะมีหนังสือสั่งให้พระปีนเสาพ้นสังกัดไปเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งทนายธรรมราช ได้พูดคุยในการไลฟ์สดว่าหลวงพี่น้ำฝนอ่านมาตรา 21 คำสั่งมหาเถรสมาคมได้ครบถ้วนหรือไม่ และมีการแสดงตัวในการให้คำปรึกษาด้านกฑหมายกับพระปีนเสา

โดยเมื่อคืนวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พระปีนเสา ได้มีการโพสต์คลิปความยาว 5 นาทีเศษ ซึ่งได้มีการแจ้งประกาศในฐานะประธานภาคีพลังชาวพุทธ ว่าวันที่ 26 พ.ย.67 เวลา 10.00 น. จะไปยื่นหนังสือต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นหนังสือการก่อสร้างศูนย์กลางการเรียนรู้พระพุทธศาสนา มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท จากนั้นวันที่ 4 ธันวาคม 67 เวลา 09.00 น. จะมาพบหลวงพี่น้ำฝนที่วัดไผ่ล้อม เพื่อขอมาชมรถหรู การทำพิธีการลงนะหน้าทอง การปลุกเสกกุมาร

จากนั้นช่วงบ่ายจะไปสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อพบผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนแห่งชาติ เพื่อถามการทำงานว่ามีเจ้าหน้าที่เป็นคริสต์หรืออิสลามหรือไม่ ถึงมีการทำงานที่มีการออกกฎต่างๆ ให้คณะสงฆ์ เช่น การให้บิณฑบาตถึง 8 โมงเช้า เป็นต้น

ในคืนเดียวกันยังมีการทำคลิปไปถึงกัน จอมพลัง ว่ามีการบงการหลวงพี่น้ำฝน และสำนักงานพระพุทธศาสนาหรือไม่ และได้มีการแจ้งว่าเป็นหนึ่งในขบวนการหมอปลาที่ทำลายพระสงฆ์ กรณีหลวงปู่แสง ซึ่งเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา และมีการปลุกระดมในการไล่ล่าตนเอง โดยกล่าวถึงหนุ่ม กรรชัย รายการโหนกระแส ที่นำบุคคลที่มีความเห็นทำลายพระพุทธศาสนามานำเสนอบ่อยๆ และมีการเชิญชวนไปตามสถานที่ต่างๆ ต่อจากนั้นได้มีการนำคลิปที่มีการพูดเสียงจากสายของบุคคลคาดว่าจะเป็นพระผู้ใหญ่ในการเห็นสมควรให้มีการขับตนออกจากวัดสามชุก

เรื่องดังกล่าว พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินการแก้ไขข้อขัดข้องระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 หรือประธานพระวินยาธิการ ภาค 14 ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับพระปีนเสา และทนายธรรมราชซึ่งมีการเคลื่อนไหวและพุ่งเป้ามาถึงว่ามีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องและใช้กฎมหาเถรสมาคม และ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ กลั่นแกล้งพระปีนเสา โดยมีอาการอาพาธเนื่องจากปฏิบัติศาสนกิจต่อเนื่องมาหลายวัน

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า ในเรื่องนี้ขอฝากข้อคิดให้ทั้งคู่ว่า "หมาต่างกับเสือตรงที่ หมาชอบเห่า แต่เสือจะใช้วิธีการคำรามและเข้าตะปบเหยื่อทันที" และอยากจะบอกว่าการที่พระปีนเสา จะเข้ามาพบในวันที่ 4 ธันวาคม ที่จะถึงนี้บอกว่ามาได้เสมอ แต่วันนั้นไม่อยู่ เพราะวันที่ 3 ถึง 8 ธันวาคม 67 มีตารางงานในการไปปฏิบัติศาสนกิจและปฏิบัติธรรมที่ใต้ต้นโพธิ์ สังเวนียสถาน ประเทศอินเดีย แต่ขอให้มาก่อนวันไหนก็ได้ประตูวัดเปิดตั้งแต่ตีห้าจนถึงสามทุ่มทุกวัน ท่านจะมาแบบไหนหรือจะมากับใครอย่างไรก็พร้อมเสมอ วัดไผ่ล้อมมีกิจกรรมให้ท่านดูมากมาย ซึ่งคนที่เป็นญาติโยมมีทั้งมาปฏิบัติธรรมและมาเที่ยวก็มากันแบบนี้ตลอด

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า เอากันตามจริงสำหรับพระปีนเสา ท่านไม่ต้องบอกว่าจะมาวันไหนขอให้แค่บอกมาอาตมาพร้อมจะไปหาทันทีอันนี้คือเรื่องจริงที่ชัดเจนแน่นอน ถามอีกคำว่าตอนนี้ท่านอยู่ที่วัดไหนอาตมาจะไปหาจะไปพบทันที ไม่ต้องรอช้า

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อไปว่า สำหรับคำถามที่ถามว่าทำไมยังสึกพระปีนเสาไม่ได้ ต้องแจ้งตรงนี้ว่าอาตมาเป็นตำรวจพระมีหน้าที่นำตัวไปส่งหรือนำเอกสารไปแจ้งให้เจ้าตัวทราบ ส่วนการจะจับสึก มีคำสั่งอย่างไรเป็นอำนาจของเจ้าอาวาสและเจ้าคณะผู้ปกครองให้แยกส่วนกันให้ชัดเจน ซึ่งเมื่อคืนทราบว่ามีการไลฟ์สดอีกถามว่าการกระทำของพระปีนเสาก็ปรากฏอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคำสั่งให้พ้นจากวัดสามชุก

โดยมีการระบุว่าไม่ฟังคำสั่งเจ้าอาวาสถือเป็นสิ่งที่ร้ายแรง หากถามว่าพระปีนเสาจะมาขออยู่ที่วัดไผ่ล้อม จะรับไหมตอบได้เลยว่าไม่รับ เพราะยากต่อการควบคุม ซึ่งคณะสงวัดไผ่ล้อมมีอะไรก็แล้วแต่จะไปไหนหรือทำอะไรจะต้องมีการแจ้งรายงานให้เจ้าอาวาสทราบอยู่ตลอดแต่นี่คุมไม่ได้ เรื่องนี้ต้องขอเตือนเจ้าอาวาสวัดอื่นๆ ด้วยว่าหากรับไปสังกัดแล้วจะต้องพบกับปัญหาอะไรบ้าง

ส่วนกรณี ทนายธรรมมราช ได้ออกมาไลฟ์สดและมีการโพสต์ข้อความว่าหลวงพี่น้ำฝนอาจจะผิดข้อหามาตรา 157 และมีการกระทำในการติดตามตัวพระปีนเสาอย่างไม่ถูกต้อง หลวงพี่น้ำฝนได้แจ้งว่า อาตมามีหน้าที่ติดตามตัวไปให้เจ้าอาวาสและคณะผู้ปกครองเท่านั้นเรื่องอื่นไม่เกี่ยว และทนายธรรมราชเองอาตมาไม่รู้จัก เคยเห็นแค่จังหวะโดนตบที่กองปราบปราม รู้อยู่เท่านั้น ซึ่งในวันที่พระปีนเสา บอกว่าจะมาที่วัดไผ่ล้อมอยากให้มาทั้งคู่ พร้อมกัน

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับทนายคนที่สงสัยว่าอาตมาทำถูกต้องหรือไม่ ขอยืนยันว่าอาตมาทำอยู่ในกรอบของคำสั่งมหาเถรสมาคม และพระราชบัญญัติพระสงฆ์ ถามว่าโยมจะไปรู้ดีกว่าเรื่องพระได้อย่างไร เพราะเขามีการประชุมกันระดับชั้นผู้ใหญ่กันโดยตลอด เช่นกันพระจะรู้เรื่องมากกว่าโยมได้อย่างไรทางโลก ซึ่งกระบวนการการปกครองของพระเขามีตามลำดับชั้น ตั้งแต่เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะตำบล รวมถึงเจ้าอาวาส ซึ่งมีคำถามมาว่าจะฟ้องร้องในมาตรา 157 หรือข้ออื่นก็เชิญฟ้องได้เลยหากอาตมาผิดก็ฟ้องมาเลย

"การที่ทนายธรรมราช ออกมาแสดงความชัดเจนและพูดทำนองว่าหากจะจับแล้วอาจจะมีการสวนกลับมาบ้าง ถือว่าพูดจาหนักไป ลูกศิษย์ลูกหาหลายคนของอาตมาฟังแล้วไม่สบายใจ และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบที่กองปราบปรามเกิดขึ้นอีก แต่มันยากต่อการควบคุม เพราะทุกคนเขามีครูบาอาจารย์ของเขา ขอย้ำอีกครั้งให้ฟังว่าหมามันชอบเห่า แต่เสือมันชอบตะปบเหยื่อ เช่นกันอาตมาก็ทำหน้าที่ในฐานะพระและตามรอยขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าตามกฎระเบียบแน่นอน" หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย






ที่มา : MgrOnline