หินถล่มทับแบ็กโฮขณะขับขึ้นภูเขาที่พังงา คนขับดับคาที่ จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเชื่อลักลอบขุดดิน
เผยแพร่ : 18 พ.ย. 2567 11:50:40
• พบร่องรอยการขุดตักดินบนภูเขา คาดเป็นสาเหตุการถล่ม
• ชาวบ้านเรียกร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากไม่มีการขออนุญาตขุดในพื้นที่ดังกล่าว
• หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุและความรับผิดชอบ
พังงา - หินถล่มทับแบ็กโฮขณะกำลังขับขึ้นภูเขา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบมีร่องรอยการขุดตักดิน คาดเป็นสาเหตุทำให้หินถล่ม ขณะชาวบ้านในพื้นที่เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพราะพื้นที่ดังกล่าวไม่มีการขออนุญาต
วันนี้ (18 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอเมืองพังงา นายสงบ สะโตน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา ผู้นำท้องที่ตำบลบางเตย นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุการณ์หินถล่มลงมาทับรถแบ็กโฮ ในพื้นที่ ซอยบ่อขยะ เทศบาลตำบลบางเตย ม.3 ต.บางเตย อ.เมืองพังงา จ.พังงา โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (17 พ.ย.) ซึ่งหลังจากได้รับแจ้งแล้วเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบให้ความช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถค้นหาตัวคนขับได้เนื่องจากรถแบ็กโฮ อยู่ที่สูงและชัน ขณะที่หินยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ และมีฝนตกช่วงค่ำ ซึ่งเป็นอันตรายต่อทีมช่วยเหลือ จึงถอนกำลัง
โดยเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหาอีกครั้งในเช้าวันนี้ จนกระทั่งพบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายนวพล อายุ 48 ปี ชาว ต.ท้ายช้าง อ.เมืองพังงา จ.พังงา คนขับรถแบ็กโฮ โดยถูกรถแบ็กโฮทับร่างอยู่ เจ้าหน้าที่จึงทำการเคลื่อนย้ายศพไปยังโรงพยาบาลพังงา และทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นพื้นที่เป็นเขตอันตรายห้ามเข้า
เบื้องต้น นายพีระเดช หลีน้อย นายกเทศมนตรีตำบลบางเตย บอกว่า คนขับรถแบ็กโฮได้นำรถมาล้างในบริเวณใกล้เคียง และกำลังขับกลับไปยังบ่อขยะของเทศบาล และได้เกิดเหตุหินบนภูเขาถล่มลงมาทับจนเสียชีวิตดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพื้นที่ พบว่าบนภูเขาที่เกิดเหตุมีร่องรอยการขุดตักหินออกมาอย่างชัดเจน คาดว่าอาจจะเป็นสาเหตุทำให้ดินถล่มลงมาครั้งนี้ ขณะที่แหล่งข่าว ในพื้นที่ ระบุว่า มีการใช้เครื่องจักรลักลอบขุดตักหินออกนอกพื้นที่อยู่เป็นประจำ เมื่อตรวจสอบไปยังสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพังงา ไม่พบว่ามีการขออนุญาตทำเหมืองหินแต่อย่างใด และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบหาคนบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติดังกล่าวต่อไป
ที่มา : MgrOnline