* อดีตตัวแทนจำหน่ายของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปเกือบ 40 ราย ร้องทุกข์ต่อตำรวจ ปคบ. * บัญชีธนาคารของอดีตตัวแทนจำหน่ายถูกอายัด * การอายัดบัญชีทำให้ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ ส่งผลให้เดือดร้อน * ผู้เสียหายต้องการให้ตำรวจ ปคบ. ช่วยปลดล็อกการอายัดบัญชี
อดีตตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป เกือบ 40 ราย ร้อง ตำรวจ ปคบ.ปลดอายัดบัญชีธนาคาร หลังเดือดร้อนทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้


วันนี้ (18 พ.ย. ) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายจิราวัจน์ ขวัญแจ่ม อายุ 50 ปี และนางสมหญิง รีฟวส์ อายุ 54 ปี พร้อมอดีตตัวแทนจำหน่ายของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปเกือบ 40 คน เดินทางเข้าร้องขอ พ.ต.ท.ราเชน แสงหมี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. ให้ปลดอายัดบัญชี

นายจิราวัจน์ เปิดเผยว่า วันนี้มีตัวแทนของดิไอคอนกรุ๊ปเกือบ 40 ราย เดินทางเข้ามาร้องขอให้ พ.ต.ท.ราเชนปลดอายัดบัญชีให้ เนื่องจากทุกคนได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ โดยตนโดนอายัดบัญชีทั้งหมด 2 บัญชี ครั้งแรกเป็นบัญชีธนาคารกสิกรไทย ในวันที่ 17 ต.ค. ต่อมาในวันที่ 13 พ.ย. ก็โดนอายัดอีกหนึ่งบัญชีซึ่งเป็นของธนาคารกรุงศรี จึงไม่สามารถใช้จ่ายได้และได้รับผลกระทบหนัก ถึงขั้นต้องไปยืมเงินแม่มาใช้จ่าย ซึ่งตนเป็นเพียงตัวแทนซื้อมาขายไปเท่านั้น และเลิกทำมาได้ 2 ปีแล้ว โดยที่ผ่านมาตนได้มีการติดต่อไปยัง พ.ต.ท.ราเชน แล้ว และมีการตอบกลับมาว่าจะมีการตั้งคณะสืบสวน แล้วก็เงียบหายไป ตนจึงเดินทางมาร้องขอในวันนี้

ขณะที่ นางสมหญิง กล่าวว่า เดินทางมาจากพัทยา จ.ชลบุรี แต่เดิมตนเองทำธุรกิจเปิดร้านค้าขายส่งของแต่งบ้านอยู่ที่พัทยา แต่ในช่วงโควิดสินค้าไม่สามารถขายได้จึงเปิดดูทางโซเชียลและเห็นทางดิไอคอน เปิดสอนคอร์สออนไลน์ ก็ได้สนใจสมัครเข้าไปเรียน และร่วมขายสินค้าเปิดดีลเลอร์อยู่ประมาณ 1 ปี หลังจากที่มีการเปิดประเทศตนก็ได้เอาสินค้าพวกกาแฟมาขายที่หน้าร้านก็ขายได้เพราะตนมีลูกค้าเดิม หลังจากขายสินค้าหมดก็ไม่ได้รับมาขายต่อ

"ตอนนี้เลิกทำธุรกิจมาแล้ว 3 ปี แต่บัญชีกลับถูกอายัดทั้งหมด 9 บัญชีซึ่งมีเงินอยู่บัญชีละ 30,000-40,000 บาท ตอนนี้เดือดร้อนมากๆ เพราะ เงินสดที่มีอยู่ไม่พอในการใช้จ่ายในครอบครัว ทั้งค่าบ้าน ค่ารถ และค่าจ้างลูกน้องในร้าน จึงอยากให้ทางตำรวจปลดอายัดบัญชี เพราะเดือดร้อนมากจริงๆ"นางสมหญิง กล่าวทั้งน้ำตา



ที่มา : MgrOnline