ปูดมิจฉาชีพเรียกเงินพวกนอมินี อ้างเคลียร์อนุฯ ป้องปรามได้ “นภินทร” ลั่นอย่าเชื่อ ยันจัดการให้สิ้นซาก
เผยแพร่ : 18 พ.ย. 2567 10:37:05
• มิจฉาชีพเรียกรับผลประโยชน์จากนิติบุคคลที่เสี่ยงเป็นนอมินี
• นายนภินทร (ไม่ระบุชื่อเต็ม) เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ เพราะไม่มีหน่วยงานดังกล่าว
• ทางการจะเดินหน้ากวาดล้างกลุ่มมิจฉาชีพอย่างจริงจัง
• การกระทำของมิจฉาชีพสร้างความเสียหายอย่างมาก
“นภินทร” เผยมิจฉาชีพสุดเหิม อ้างตัวเคลียร์คณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าวได้ และเรียกรับผลประโยชน์จากนิติบุคคลเสี่ยงเป็นนอมินี ลั่นอย่าหลงเชื่อ ไม่มีแน่นอน ยันเดินหน้ากวาดล้างให้สิ้นซาก เหตุสร้างความเสียหายต่อธุรกิจ เศรษฐกิจ และประเทศไทย
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) เปิดเผยว่า ขณะนี้สืบทราบว่ามีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลอ้างตัวว่าสามารถเจรจากับคณะอนุกรรมการฯ ที่มีความเสี่ยงเป็นนอมินี และนิติบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นนอมินีแล้ว (กรณีคนไทยทำนิติกรรมอำพราง เพื่อช่วยเหลือให้คนต่างด้าวเข้ามาทำธุรกิจในไทยโดยไม่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542) พร้อมเรียกรับเงิน หรือผลประโยชน์จากนิติบุคคลเหล่านั้น
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าคณะอนุกรรมการฯ ที่มีผู้แทนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ ไม่ว่าจะเป็นกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมการจัดหางาน กรมการท่องเที่ยว กรมที่ดิน และกรมสรรพากร ไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ เพื่อจบปัญหานี้ และคณะอนุกรรมการฯ ล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีความน่าเชื่อถือ และทำงานเพื่อแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง โปร่งใส เพราะถือว่านอมินีทำลายธุรกิจ และเศรษฐกิจไทย
“ใครที่ถูกเรียกรับเงินหรือผลประโยชน์ โดยอ้างว่าจะนำมาเคลียร์กับคณะอนุกรรมการฯ เพื่อให้จบปัญหานอมินี ขอให้รู้ว่ากำลังถูกหลอกและเรียกตบทรัพย์ เพราะคณะอนุกรรมการฯ ไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์อย่างแน่นอน และตั้งเป้าหมายว่าจะกวาดล้างนอมินีให้หมดไปจากประเทศไทย เพราะนอมินีคือการที่คนต่างด้าวเข้ามาครอบงำธุรกิจไทย สร้างความเสียหายให้ธุรกิจไทย เศรษฐกิจไทย และประเทศไทย” นายนภินทรกล่าว
สำหรับคนไทยคนใดที่กำลังมีพฤติกรรมเป็นนอมินีของต่างชาติ ขอให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าวเสีย และแจ้งเบาะแสข้อมูลต่างๆ มายังกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะกันตัวเป็นพยาน และโทษหนักจะได้กลายเป็นเบา ส่วนคนที่ได้รับการทาบทาม ชักชวนว่าจ้างให้เป็นนอมินี ขอให้เลิกคิด เพราะค่าตอบแทนน่าจะไม่คุ้มกับโทษอาญา กรณีนอมินี มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ 1 แสนถึง 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ต้องระวางโทษปรับวันละ 10,000-50,000 บาท จนกว่าจะยุติการฝ่าฝืน
ก่อนหน้านี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้ประชุมนัดแรกเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา ซึ่งมีข้อสรุปแก้ปัญหาใน 3 ระยะ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยแนวทางแก้ไขปัญหาจะนำเสนอผลสรุปต่อคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานพิจารณาเร็วๆ นี้ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป
โดยระยะสั้นที่จะเห็นผลภายใน 1-3 เดือน จะใช้อำนาจของทุกหน่วยงานในการตรวจสอบ สืบสวน สอบสวนบุคคล หรือธุรกิจเสี่ยง และดำเนินคดี รวมถึงแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างแต่ละหน่วยงาน เพื่อสร้างฐานข้อมูลเดียวกันที่จะใช้สืบสวน สอบสวน ตรวจสอบหาธุรกิจที่กระทำผิดและเข้าข่ายนอมินี ระยะกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ระหว่างจัดทำระบบวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของนิติบุคคลที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจตามกฎหมาย (IBAS) เพื่อจับผิดนิติบุคคลเสี่ยง คาดว่าจะเสร็จในไม่เกิน 6 เดือน และระยะยาวจะแก้ไขกฎหมายสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าไม่รับจดทะเบียนบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงตามกฎหมายของ ปปง. เช่น อาชญากรข้ามชาติ มีชื่อเป็นกรรมการในบริษัทที่จะขอจดทะเบียนจัดตั้ง จากปัจจุบันที่ต้องรับจดให้ เพราะตามอำนาจหน้าที่จะไม่รับจดเฉพาะบุคคลล้มละลาย และบุคคลไร้ความสามารถเท่านั้น โดยการแก้ไขกฎหมายน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี รวมทั้งอาจเพิ่มบทลงโทษกรณีการเป็นนอมินีให้มากขึ้น เพื่อให้เกรงกลัวการกระทำผิด
ที่มา : MgrOnline