ผวาทั้งปฐพี! มอสโกขู่มนุษยชาติเข้าใกล้สงครามโลก หลังลือ US ไฟเขียวเคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีรัสเซีย

เผยแพร่ : 18 พ.ย. 2567 06:53:18
X
• สหรัฐอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีรัสเซีย
• สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของรัสเซียเตือนว่า การกระทำดังกล่าวอาจทำให้ความขัดแย้งลุกลาม
• รัสเซียเกรงว่าการกระทำนี้จะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3

การตัดสินใจของวอชิงตันที่ไฟเขียวให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย คือการทำให้ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามและอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 จากคำเตือนของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ (17 พ.ย.)

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ เปิดเผยก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่าวอชิงตันได้กลับลำนโยบายครั้งสำคัญเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย ด้วยการอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯ จัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย

"การตัดสินใจของตะวันตกเกี่ยวกับระดับสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายดังกล่าว อาจจบลงด้วยการที่ความเป็นรัฐของยูเครนกลายสภาพเป็นเศษซากปรักหักพังโดยสิ้นเชิงในยามเช้า" อันเดร คลิสชาส สมาชิกอาวุโสของสภาสหพันธรัฐ หรือสภาบนของรัสเซีย ระบุผ่านเทเลแกรม

ส่วน วลาดิมีร์ ซาบารอฟ รองประธานคนที่ 1 ของคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาบนรัสเซีย บอกว่ามอสโกจะตอบโต้ในทันที "มันเป็นก้าวย่างที่ใหญ่มากๆ ในการมุ่งหน้าสู่การเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3" ซาบารอฟ ให้สัมภาษณ์กับทาสส์นิวส์

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวในเดือนกันยายน ว่า ตะวันตกจะเท่ากับสู้รบกับรัสเซียโดยตรง หากว่าอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ตะวันตกจัดหาให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวที่เขาบอกว่าจะเปลี่ยนแปลงลักษณะและขอบเขตความขัดแย้ง

รัสเซียจะถูกบีบให้ดำเนินการในสิ่งที่ปูตินเรียกว่า "การตัดสินใจต่างๆ อย่างเหมาะสม" บนพื้นฐานของภัยคุกคามใหม่นี้

ลีโอนิด สลัตสกี ประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาดูมา สภาล่างของรัสเซีย กล่าวว่า การที่สหรัฐฯ อนุญาตให้ยูเครนโจมตีรัสเซียด้วยขีปนาวุธยุทธวิธี ATACMS ของอมเริกา จะนำมาซึ่งการตอบโต้อย่างหนักหน่วงที่สุด จากการเปิดเผยของสื่อมวลชนรัสเซียหลายสำนัก

"การโจมตีด้วยขีปนาวุธของสหรัฐฯ ลึกเข้าสู่ภูมิภาคต่างๆ ของรัสเซีย จะทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเสี่ยงนำมาซึ่งผลสนองที่รุนแรงหนักหน่วงกว่าหลายเท่า" สลัตสกีกล่าวกับทาสส์นิวส์

(ที่มา : รอยเตอร์)

ที่มา : MgrOnline