สีจิ้นผิงเคลียร์ใจส่งท้ายไบเดน ยันพร้อมร่วมมือรัฐบาลทรัมป์

เผยแพร่ : 17 พ.ย. 2567 21:27:26
X
• สี จิ้นผิง ยืนยันความพร้อมที่จะร่วมมือกับ โดนัลด์ ทรัมป์ หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย
• สี จิ้นผิง และ โจ ไบเดน มีการหารือเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งต่างๆ ก่อนที่ ไบเดน จะพ้นจากตำแหน่งในอีก 2 เดือน
• ประเด็นที่หารือครอบคลุมประเด็นสำคัญๆ หลายด้าน ได้แก่ อาชญากรรมทางไซเบอร์, การค้า, ไต้หวัน และ รัสเซีย

รอยเตอร์ - สีประกาศพร้อมร่วมมือกับทรัมป์ ขณะเคลียร์ใจครั้งสุดท้ายกับไบเดนที่กำลังจะพ้นตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในอีก 2 เดือน เกี่ยวกับประเด็นขัดแย้งสำคัญต่างๆ ตั้งแต่อาชญากรรมทางไซเบอร์ จนถึงการค้า ไต้หวัน และรัสเซีย

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ราว 2 ชั่วโมงเมื่อวันเสาร์ (16 พ.ย.) ที่โรงแรมที่พักของผู้นำจีนระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่กรุงลิมา เปรู ซึ่งถือเป็นการพูดคุยกันครั้งแรกในรอบ 7 เดือน

ระหว่างหารือกัน สีกล่าวกับไบเดนว่า เป้าหมายของจีนในการรักษาความสัมพันธ์ที่มั่นคง ราบรื่น และยั่งยืนระหว่างสองประเทศยังคงไม่เปลี่ยนแปลงภายหลังการเลือกตั้งในอเมริกา แต่ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีทั้งช่วงเวลาที่ดีและเลวร้าย

สียืนยันว่า จีนพร้อมทำงานร่วมกับคณะบริหารชุดใหม่ของอเมริกาเพื่อสานต่อการสื่อสาร ขยายความร่วมมือ และจัดการความขัดแย้ง

ด้านไบเดนยอมรับว่า ไม่ได้เห็นด้วยกับสีเสมอไป แต่การหารือเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา

ทั้งนี้ ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับคืนสู่ทำเนียบขาวต้นเดือนมกราคม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เล็งเห็นความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นที่จะเกิดความขัดแย้งระหว่างช่วงผ่องถ่ายอำนาจ โดยไบเดนบอกสีว่า การคงการหารือระดับผู้นำประเทศมีความสำคัญ แม้เมื่อตนพ้นตำแหน่งไปแล้ว

ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าจีนทั้งหมด 60% รวมทั้งยังแต่งตั้งผู้ที่มีจุดยืนแข็งกร้าวต่อจีนในตำแหน่งสำคัญๆ เช่น วุฒิสมาชิกมาร์โค รูบิโอ ที่ถูกเสนอชื่อคุมกระทรวงต่างประเทศ และไมค์ วอลซ์ ในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ

ไบเดนและสียังเห็นพ้องกันว่า มนุษย์ควรเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ไม่ใช่ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการรายงานว่า สองประเทศหยิบยกประเด็นนี้หารือ

ผู้นำจีนและอเมริกายังพูดคุยกันเรื่องเกาหลีเหนือ พันธมิตรของจีนที่กำลังกระชับสัมพันธ์แนบแน่นกับรัสเซียและส่งทหารไปร่วมรบในสงครามยูเครน ซึ่งสร้างความกังวลทั้งในวอชิงตัน ปักกิ่ง และยุโรป

เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา เผยว่า ไบเดนชี้ว่า จีนควรประกาศจุดยืนเกี่ยวกับสงครามในยูเครนว่า ต้องไม่ทำให้สถานการณ์ลุกลาม และคัดค้านการนำทหารเกาหลีเหนือเข้าไปเกี่ยวข้อง และสำทับว่า จีนควรใช้อิทธิพลและศักยภาพที่มีเพื่อป้องกันสถานการณ์ดังกล่าวเหล่านั้น

ประเด็นอื่นๆ ที่มีการหารือกันรวมถึงการที่แฮกเกอร์ที่โยงใยถึงจีนเจาะระบบโทรศัพท์ของรัฐบาลสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ทีมหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเร็วๆ นี้ การที่ปักกิ่งกดดันไต้หวันและในทะเลจีนใต้มากขึ้น รวมถึงการที่จีนสนับสนุนรัสเซีย

ทำเนียบขาวแถลงว่า ไบเดนเรียกร้องให้จีนเลิกกิจกรรมทางทหารที่บ่อนทำลายเสถียรภาพรอบเกาะไต้หวัน ขณะที่กระทรวงต่างประเทศจีนเผยว่า สีย้ำว่า การประกาศเอกราชของไต้หวันและกิจกรรมการแบ่งแยกดินแดนของประธานาธิบดีไล่ ชิง-เต๋อ ไม่สอดคล้องกับสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน

เมื่อวันศุกร์ (15 พ.ย.) รอยเตอร์รายงานว่า ไล่มีแผนแวะที่ฮาวายและอาจรวมถึงกวมในเร็วๆ นี้ ซึ่งแน่นอนว่า จะสร้างความเดือดดาลให้ปักกิ่ง

ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากมาตรการทางการค้าของไบเดนที่รวมถึงการห้ามบริษัทอเมริกันลงทุนในเอไอ ควอนตัมคอมพิวติ้ง และเซมิคอนดักเตอร์ของจีน รวมทั้งจำกัดการส่งออกชิปไฮเอนด์ไปยังจีน โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ

สื่อจีนระบุ สีพูดกับไบเดนว่า อเมริกาไม่มีหลักฐานสนับสนุนการกล่าวอ้างเรื่องจีนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ อีกทั้งเสริมว่า วอชิงตันไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้

เซิน ติงลี่ นักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเซี่ยงไฮ้ มองว่า จีนไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์กับอเมริกาตึงเครียดมากขึ้นก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง

ที่มา : MgrOnline