ไทยเร่งส่งทหารช่างสำรวจแนวน้ำสาย-น้ำรวก ก่อนชง JCR ไฟเขียวลุยขุดลอก ชี้ต้องรื้ออาคารรุกริมน้ำต่อ

เผยแพร่ : 17 พ.ย. 2567 14:07:05
X
• ส่งทหารช่างสำรวจพื้นที่ภายใน 2 สัปดาห์
• เสนอแผนเข้าที่ประชุม JCR ปลายธันวาคมนี้
• มีเป้าหมายแล้วเสร็จก่อนฤดูฝนปีหน้า
• เมียนมาอนุมัติโครงการแล้ว
• มีแผนรื้ออาคารริมฝั่งแม่น้ำต่อไป

เชียงราย - คืบหน้า สทนช.ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแผนขุดลอกน้ำสาย-น้ำรวก เตรียมส่งทหารช่างสำรวจเสร็จใน 2 สัปดาห์ ก่อนชงเข้าที่ประชุม JCR ปลายเดือนธันวาฯ ลุยขุดเสร็จก่อนฝนปีหน้า ชี้เมียนมาไฟเขียวแล้ว เล็งรื้ออาคารริมฝั่งต่อ

วันนี้ (17 พ.ย.) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานประชุม "เตรียมความพร้อมจัดทำแผนขุดลอกและปรับปรุงแม่น้ำสาย" โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ฝ่ายปกครอง จ.เชียงราย โยธาธิการและผังเมือง กองเขตแดนระหว่างประเทศแผนที่ทหาร ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โครงการชลประทาน ธนารักษ์ ที่ดิน กองกำลังผาเมือง กรมเจ้าท่า ฯลฯ เข้าร่วมที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา

หลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่พื้นที่ชายแดน อ.แม่สาย ช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา คณะทำงานศึกษาวางแผนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและดินโคลนถล่มพื้นที่ภาคเหนือ ได้มีการประชุมครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมาที่กระทรวงคมนาคม และมอบหมายให้ สทนช.จัดทำแผนและโครงการระยะเร่งด่วน ระยะกลางและระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งในเขต จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ สำหรับที่ จ.เชียงราย มีแผนที่จะขุดลอก ทำพนังกั้นน้ำ ฯลฯ ภายในแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก ซึ่งเป็นชายแดน อ.แม่สาย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก

ที่ประชุมได้หารือถึงขั้นตอนว่าต้องประสานผ่านคณะกรรมการร่วมไทย-เมียนมาเกี่ยวกับเขตแดนคงที่ช่วงแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก (JCR) หลังจากไทยได้มีการวางแผนกันเองภายในแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการประชุมคณะทำงาน JCR ระหว่าง จ.เชียงราย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก จึงต้องรอฝ่ายเมียนมา

หากผ่านข้อตกลงของคณะทำงาน JCR ก็จะต้องนำเสนอต่อ JCR เพื่อแจ้งผลไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อแจ้งให้รัฐบาลเมียนมายืนยันให้ลงมือขุดลอกได้ต่อไป ซึ่งปัจจุบันกระบวนการเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้น นอกจากนี้ หากฝ่ายเมียนมาอนุมัติยังมีข้อหารืออีกหลายเรื่อง เช่น งบประมาณซึ่งคาดว่าฝ่ายไทยจะออกเองทั้งหมด ดินที่ขุดลอกไปไว้ฝั่งไหน การสำรวจ การใช้โดรน ฯลฯ

นายสุรสีห์กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่าการประชุมคณะทำงาน JCR จะมีขึ้นภายในสัปดาห์นี้แล้ว โดยผู้ว่าราชการ จ.เชียงรายอยู่ระหว่างติดต่อประสานกับผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก ดังนั้นในสัปดาห์ถัดไปจึงขอให้ทางกรมการทหารช่างเข้าไปสำรวจพื้นที่ได้เลย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์จึงแล้วเสร็จ

จากนั้นก็นำแผนการจะขุดลอก การสร้างพนังชั่วคราวและกึ่งถาวรเสนอแผนต่อ JCR ตามข้อตกลงที่ทางการเมียนมาแจ้งว่าจะต้องให้แล้วเสร็จเพื่อนำเสนอต่อ JCR ในวันที่ 19-20 ธ.ค.นี้ เมื่อ JCR อนุมัติก็จะนำเสนอแผนต่อรัฐบาลไทยเพื่อขออนุมัติงบประมาณ การดำเนินการจะให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค. 2568 เพื่อบรรเทาเหตุน้ำท่วมในอนาคตได้

"สทนช.ได้รับมอบหมายจากทางรัฐบาลซึ่งห่วงใยต่อปัญหาน้ำท่วมซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ อ.แม่สาย อย่างมาก จึงเร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2568 สิ่งที่ต้องทำคือการขุดลอกลำน้ำสายและลำน้ำรวก ซึ่งที่ผ่านมาเกิดตะกอนดินตกค้างเป็นจำนวนมาก ถ้าฝนตกลงมาก็จะเอ่อล้นและท่วมขังได้เลย ดังนั้นจึงมีแผนเร่งด่วนโดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ และได้ข้อสรุปว่าให้กรมการทหารช่างเข้าสำรวจพื้นที่แล้ว" นายสุรสีห์กล่าว และว่า

กรณีความร่วมมือกับทางประเทศเมียนมานั้น ในระดับส่วนกลางทาง JCR ได้มีข้อตกลงจากประเทศเมียนมาให้ดำเนินการได้แล้ว ส่วนในพื้นที่มีผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานคณะทำงาน JCR ซึ่งจะประสานงานกับผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก ต่อไป จึงเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝนปีหน้าได้แน่นอน ส่วนกรณีอาคารตั้งอยู่ริมตลิ่งเป็นจำนวนมากก็จำเป็นต้องให้รื้อย้ายโดยวิธีการทำความเข้าใจว่าหากไม่มีการรื้อย้ายก็แก้ไขปัญหาได้ยาก


ที่มา : MgrOnline