”วิลาศ“ จวกกรมที่ดินมุบมิบออกหนังสือไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดง ถามใครอ้างคำพิพากษาศาลฏีกาที่ตัดสินให้เป็นของรัฐ
เผยแพร่ : 15 พ.ย. 2567 13:57:42
• นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ จี้กรมที่ดิน เปิดเผยว่ากรมที่ดิน มุบมิบออกหนังสือไม่เพิกถอนที่ดินเขา กระโดง คืนให้กับ รฟท. โดยอ้างคำพิพากษาศาลฎีกาถึงที่สุด
• นายวิลาศตั้งคำถาม ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใด ที่อ้างคำพิพากษาศาลฎีกา โดยยกคำพิพากษาศาลฎีกา 2 คดีที่ชี้ว่าที่ดินเขา กระโดง เป็นของรัฐ
• นายวิลาศ ชี้ การกระทำดังกล่าวเป็นการโต้แย้งพระราชโองการ เนื่องจากที่ดินเขากระโดง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และควรเป็นของรัฐ ตามพรฎ. ป่าสงวนแห่งชาติ
”วิลาศ“เปิดหน้าจวกกรมที่ดิน หลังมุบมิบออกหนังสือไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดงคืน รฟท. ถามจี้ใจดำ รมต.ใครอ้างคำพิพากษาศาลฏีกาถึงที่สุด ยกคำพิพากษาศาลฏีกา 2 คดีชี้ที่ดินเขากระโดงเป็นของรัฐ ซ้ำยังแย้งพรฏ. ถือเป็นการโต้แย้งพระราชโองการหรือไม่ งัดหลักฐานเด็ดบันทึกการประชุมร่วมปี 13 “ปู่ชัย”ขออาศัยที่ดินการรถไฟ เทียบภาพถ่ายทางอากาศปี97 กับปัจจุบัน ถูกรุกเขา5พันกว่าไร่ตบหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอื้อประโยชน์ใคร
วันนี้(15 พ.ย. 67) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต สส.กทม. แถลงถึงกรณีกรมที่ดินทำหนังสือเลขที่มท. 0516.2(2)/22062 ลงวันนี้21 ตุลาคม 2567 เรื่องการเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินที่ออกทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่ายังไม่สมควรที่จะเพิกถอน หรือแก้ไข หนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดิน เนื่องจากรฟท.ไม่มีพยานหลักฐานยืนยันการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ของที่ดินของรฟท.ว่า เท่าที่ตนติดตามเรื่องที่ดินเขากระโดง ทำไมฝ่ายการเมืองไม่มีการพูดถึง ก่อนหน้านี้ฝ่ายบริหารออกมาแถลงข่าวถึงคำพิพากษาของศาลฎีกาถือเป็นที่สุดไม่มีอะไรใหญ่กว่า ถึงขนาดรัฐมนตรีบางคนบอกว่าไม่ยอมเสียแผ่นดินแม้แต่ตารางวาเดียว แต่กลับไม่มีการสั่งการอะไร จึงขอเตือนถึงข้าราชการที่รับผิดชอบว่าให้ยึดถือตามกฎหมาย และคำพิพากษาของศาลฏีกา อย่าเกรงใจฝ่ายการเมือง ไม่เช่นนั้นวันหนึ่งตัวท่านจะเดือดร้อน
นายวิลาศกล่าวว่า จากที่ตนตรวจสอบพบว่า มีรัฐมนตรีบางคนทำบัตรประชาชนอาศัยอยู่เลขที่บ้านในที่ดินที่อยู่เขากระโดง แล้วข้าราชการที่ไหนกล้าไปไล่ ทั้งนี้เรื่องที่ดินเขากระโดงศาลฏีกาเคยตัดสินไปแล้ว 2 คดี ว่าเป็นที่ดินของรฟท. ส่วนอีกคดีเป็นคดีศาลอุทธรณ์ภาค3 ก็ยืนยันว่าเป็นที่ดินของรฟท.ด้วยเช่นกัน จึงมีคำถามว่าแล้วทำไมกรมที่ดินจึงกล้าทำหนังสือไม่เพิกถอนที่ดินดังกล่าวถึงรฟท. เท่ากับเป็นการโต้แย้งหรือคัดค้างคำพิพากาษศาลฏีกาหรือไม่อย่างไร
“เรื่องเขากระโดงเป็นเรื่องลึกลับซับซ้อน เหตุการณ์เริ่มตั้งแต่มีพระราชกกฤษฎีกาวันที่ 8 พ.ย.2462 กว่า 100 ปีแล้วดึงกันไปมา จนตอนนี้ยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงอะไรผิดอะไรถูก ใครจะต้องออกจากพื้นที่ หรือใครมีสิทธิที่จะอยู่ยังพิสูจน์ไม่ได้ ผมจึงขอตั้งข้อสังเกตถึงกรมที่ดินว่าการที่เลขาธิการสำนักงานกฤษฏีกาออกมายืนยันว่าที่ดินเขากระโดงเป็นที่ดินของรฟท. ตามคำพิพากษาของศาลฏีกา และคนที่ไปให้การเป็นพยานต่อศาลจะถือเป็นการให้การเท็จหรือไม่“
นายวิลาศ กล่าวว่า นอกจากนี้การสร้างทางรถไฟสายโคราช-อุบลราชธานี กิโลเมตรที่375+650 มีการสร้างทางแยกไปอีก8 กม. เพื่อทำทางไปขนหินจากบ้านเขากระโดง ในจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อเอามาสร้างทางรถไฟสายดังกล่าว มีการออกเป็นพระราชกฤษฏีกา ปี 2562 การที่กรมที่ดินมีหนังสือแจ้งรฟท.ว่าไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดงถือเป็นการโต้แย้งต่อพระบรมราชโองการหรือไม่
”ที่สำคัญที่สุดมีผู้ส่งหนังสือเป็นเอกสารการบันทึกการประชุมร่วมเรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับทีดินเขากระโดง ลงวันที่ 9 พ.ย. 2513 ระหว่างนายชัย ชิดชอบ และเจ้าหน้าที่รฟท. โดยมีการบันทึกว่า นายชัยขออาศัยในที่ดินดังกล่าว จากการรถไฟได้ และการรถไฟตกลงยินยอมให้อาศัย ซึ่งจะได้ทำสัญญาการอาศัยต่อไป เท่ากับว่าหนังสือฉบับนี้นายชัยก้ยอมรับแล้วว่าไม่ใช่ที่ดินของท่าน แล้วทำไมกรมที่ดินอยู่ดีๆไปออกหนังสือรับรองเช่นนั้นมา “นายวิลาศกล่าว
อย่างไรก็ตามนายวิลาศกล่าวว่าตนจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป และหากมีหลักฐาน พยาน ที่เกี่ยวข้องจะมาแถลงต่อสื่อเพิ่มเติม และขอย้ำว่าเมื่อศาลฏีกาตัดสินแล้วก็ต้องยึดไปตามนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องที่พยายามเบี่ยงเบน มีเจตนาเช่นไร สังคมมองออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงนายวิลาศได้โชว์ภาพถ่ายทางอากาศแผนที่่เขากระโดง ซึ่งครอบคลุมที่ดิน 5,083 ไร่ โดยมีการแบ่งเป็นพื้นที่สนามฟุตบอล บ.ศิลาชัย บุรีรัมย์(1991) จำกัด บ้านพักของอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่ง และบ้านพักของเครือญาติตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่งในบุรีรัมย์ รวมถึงภาพถ่ายทางอากาศเปรียบเทียบ เมื่อปีพ.ศ. 2497 ขณะที่เป็นที่ดินรกร้าง ที่อยู๋ในอาณัติของรฟท. กลับภาพถ่ายดาวเทียมปัจจุบันที่ถูกครอบครอง
ที่มา : MgrOnline