ชาวบ้านแตกตื่น! ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ผวาเจอภัยพิบัติเลวร้าย
เผยแพร่ : 15 พ.ย. 2567 09:47:56
• ฟิลิปปินส์ประสบเหตุการณ์ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่พบเห็นบ่อย
• เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลแก่ชาวบ้าน
• ชาวบ้านบางส่วนเชื่อว่านี่เป็นลางบอกเหตุเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ชาวฟิลิปปินส์พบเจอเหตุการณ์ที่แบบไม่พบเห็นบ่อยนัก ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน โหมกระพือความกังวลต่างๆ แก่พวกชาวบ้าน ที่มีความเชื่อว่ามันอาจเป็นลางบอกเหตุเกี่ยวกับภัยพิบัติเลวร้ายทางธรรมชาติ
เหตุการณ์ท้องฟ้าสีแดงฉานตอนพระอาทิตย์ขึ้นครั้งนี้ ถูกถ่ายภาพไว้ได้ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในจังหวัดคามารีเนสนอร์เต บนเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แม้มันไม่สร้างความประหลาดใจแก่พวกชาวบ้านเท่าไหร่ แต่มันโหมกระพือความกังวลว่าอาจเป็นสัญญาณว่าภัยพิบัติเลวร้ายใกล้เข้ามาแล้ว ตามความเชื่อถือทางไสยศาสตร์ครั้งโบร่ำโบราณ
กลอเย กาเบาเต เป็นคนโพสต์ภาพถ่ายบนเฟซบุ๊กของจังหวัดคามารีเนสนอร์เต ในภาพพบเห็นท้องฟ้าเหมือนกับถูกทาด้วยสีแดง และเปื้อนไปด้วยเมฆสีดำ พร้อมระบุว่าภาพนี้ถ่ายไว้ในตอนรุ่งสาง เนื่องจากในตอนนั้นไฟถนนยังคงเปิดอยู่
กาเบาเต โพสต์ข้อความว่า "แสงสีแดงบนท้องฟ้า ทำให้ทิวทัศน์ของเมืองแห่งนี้นั้นต่างออกไป"
รายงานข่าวระบุว่า ท้องฟ้าสีแดงฉานได้กระตุ้นให้พวกชาวบ้านจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ในทันที รวมถึงพากันบันทึกภาพเอาไว้
สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานอ้างผู้เชี่ยวชาญบางส่วน ระบุว่า ปรากฏการณ์นี้อาจมีต้นตอจากสภาพอากาศพิเศษหนึ่งๆ เช่น ความชื้นและอนุภาคฝุ่นในอากาศ ซึ่งล่องลอยเป็นสีแดงของพระอาทิตย์ขึ้น
พวกนักวิทยาศาสตร์เคยอธิบายไว้ว่า การที่ท้องฟ้าเป็นสีแดง มักจะเกิดขึ้นเมื่อจะมีฝนฟ้าคะนอง ชั้นเมฆของท้องฟ้าจะต่ำมาก ทำให้มีไอน้ำเกาะหนาแน่นจนความชื้นเพิ่มสูง เมื่อแสงพระอาทิตย์ตกกระทบละอองน้ำ จะเกิดการหักเหของแสงสีแดง ตาของเราจึงมองเห็นเป็นสีแดงฉานทั่วทั้งท้องฟ้า
อย่างไรก็ตาม ความเห็นส่วนใหญ่ของผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์ แสดงความหวั่นกลัวและกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายกว่านั้น โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเขียนว่า "มันเป็นสัญญาณว่าพายุรุนแรงกำลังมา คนเฒ่าคนแก่เคยบอกว่า มันเป็นสัญญาณที่บอกว่าสภาพอากาศเลวร้ายกำลังมา"
กระนั้นบางคนแสดงความไม่เห็นด้วย โดยบอกว่า "ในยุคทศวรรษ 1960 ปู่ของฉัน เคยบอกว่าโลกของเรากำลังล่มสลาย เคราะห์ร้าย จนถึงตอนนี้โลกก็ยังคงอยู่ดี"
(ที่มา : เอเจนซี)
ที่มา : MgrOnline