## ข้อสรุปข่าว * มือปืนที่ยิงชาวเมียนมาร์ 2 ศพ ทิ้งข้างถนนริมชายแดนราชบุรี ถูกจับกุมแล้ว * คาดว่าคนร้ายต้องการชิงทรัพย์ * เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวผู้ต้องหาที่กำลังมุ่งหน้าไปจังหวัดตาก
ราชบุรี - รวบแล้วมือปืนยิงชาวพม่าทิ้งข้างถนนริมชายแดน 2 ศพ คาดต้องการชิงทรัพย์ เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายขณะ มุ่งหน้าไป จ.ตาก

จากกรณีชาวพม่าถูกยิงเสียชีวิตและทิ้งศพไว้ข้างถนนลูกรังทางเข้าหมู่บ้านโป่งสองเกาะ ม.7 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และมีผู้มาพบศพเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.30 น. ของวันนี้ (15 พ.ย.)

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คันมุ่งหน้าไป จ.ตาก จึงได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของ จ.ตากได้ทำการสกัด ซึ่งสามารถจับกุมรถทั้ง 2 คัน รวมทั้งผู้ที่โดยสารไปกับรถทั้ง 2 คันไว้ได้แล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ สภ.สวนผึ้ง กำลังเดินทางไปรับตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.สวนผึ้ง

ด้านนายออง ซาน เมน อายุ 40 ปี น้องชายของนายออง ซาน วิน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ตายทั้ง 2 คน ได้เดินทางมาดูศพของพี่ชายที่ สภ.สวนผึ้ง ก่อนจะบอกว่า ได้รับแจ้งจากพี่สะใภ้ว่า พี่ชายนั้นออกจากบ้านมาพร้อมกับเพื่อนตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้ และตรวจสอบพิกัดจากโทรศัพท์พบว่ามาอยู่ที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี จึงได้เดินทางมาประกอบกับช่วงที่โทรศัพท์หาผู้ตายนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรับสายจึงทำให้ทราบว่าเกิดเรื่องกับพี่ชาย แต่มีคนที่รอดชีวิตมาได้ ซึ่งตนกับครอบครัวรู้สึกสงสัยว่าทำไมถึงรอดมาได้ แต่พี่ชายกับเพื่อนนั้นถูกยิงตาย ส่วนสาเหตุนั้นไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร เพราะพี่ชายไม่เคยเล่าให้ฟัง และภรรยาของผู้ตายไม่ได้รู้อะไร

ส่วนนายวิน ชาวพม่า ซึ่งเป็นน้องชายของนาย ออง ซาน วิน ผู้เสียชีวิต มาเป็นล่ามแปลภาษาให้นายอาการ ชาวพม่าซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตคนเดียวจากเหตุการณ์นี้ บอกว่า ได้รับการติดต่อจากเพื่อนชาวพม่าซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาจำนวน 3 คน ว่าจ้างให้ไปส่งที่ จ.ราชบุรี โดยว่าจ้างรถ 2 คัน เนื่องจากอ้างว่ามีสิ่งของที่ต้องบรรทุกไปด้วย ทำให้ผู้ตายกับนายอาการ นำรถกระบะออกมาคนละคัน ในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 13 พ.ย.67 และไปแวะรับเพื่อนของผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่ตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร

ซึ่งในช่วงนั้นไม่ได้มีสิ่งของที่ต้องบรรทุกไป แต่เมื่อออกมาแล้วจึงได้ยอมขับรถมาส่งที่ จ.ราชบุรี เพราะผู้ต้องหาโอนเงินมัดจำมาให้แล้วจำนวน 1,000 บาท และเมื่อมาถึงจุดหมายจะให้อีก 4,000 บาท โดยรถของนายออง ซาน วิน ผู้เสียชีวิตนั้นนั่งมาทั้งหมด 3 คน มีนายออง ซาน วิน เป็นคนขับ นายซอ ซอ ผู้ตายอีกคนนั่งซ้าย ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นคนว่าจ้างนั่งในแค็บ ส่วนรถของนายอาการ มีนายอาการเป็นคนขับ และมีผู้ต้องหาอีก 2 คน นั่งหน้าและในแค็บ ซึ่งรถของนายออง ซาน วิน นำหน้าทิ้งห่างรถของนายอาการ ประมาณ 150 เมตร ซึ่งเมื่อถึงจุดเกิดเหตุเป็นช่วงทางโค้ง ผู้ต้องหา 2 คน ที่นั่งมาในรถและบอกให้จอดรถ ซึ่งช่วงนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ซึ่งผู้ต้องหาที่นั่งมาด้วยบอกว่าน่าจะเป็นการยิงสัตว์

จากนั้นได้ใช้มีดจี้ที่คอพร้อมกับบอกให้ถอดทรัพย์สินมีสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท โทรศัพท์มือถือ พร้อมกับบังคับให้บอกรหัสถอนเงินในแอปธนาคารซึ่งมีอยู่ประมาณหนึ่งแสนบาท จากนั้นบังคับให้ถอดเสื้อ ก่อนจะให้ลงจากรถและถีบตนเองตกลงไปในเหว ซึ่งมีน้ำเล็กน้อยด้วยความตกใจกลัว จึงรีบวิ่งฝ่าความมืดไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน แต่ไม่มีใครช่วยเนื่องจากนายอาการนั้นพูดภาษาไทยไม่ได้ จึงหนีไปจนถึงวัดซึ่งอยู่ใกล้ๆและไปแอบอยู่ก่อนจะไปเจอเพื่อนชาวพม่าด้วยกันในช่วงเช้า พร้อมกับขอความช่วยเหลือขอโทรศัพท์โทร.หาภรรยาให้มาช่วยเหลือ ซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุนั้นไม่ทราบว่าเพื่อนอีก 2 คนที่อยู่ในรถคันหน้านั้นถูกยิงตายและไม่เห็นเหตุการณ์ด้วย แต่ตอนนี้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามจับกุมตัวได้แล้วที่แม่สอด จ.ตาก ตนอยากจะถามว่าแค่ต้องการรถต้องฆ่ากันด้วยหรือ





ที่มา : MgrOnline