"เรืองไกร" รื้อคดีฟุตซอล ร้องกกต.สอบ "อิ๊งค์" พ่วง 3 รมต. ส่อผิดจริยธรรมร้ายแรงต้องพ้นตำแหน่ง

เผยแพร่ : 14 พ.ย. 2567 20:32:55
X
• สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นเรื่องต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
• เรียกร้องให้สอบสวน นายกรัฐมนตรี (พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา) และ รัฐมนตรี 3 คน
• กรณี คดีฟุตซอล ส่อเข้าข่าย ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง
• พปชร. เสนอให้ กกต. พิจารณาว่าเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลต่อการดำรงตำแหน่งของบุคคลเหล่านี้หรือไม่
• หากพบว่าฝ่าฝืนจริง อาจนำไปสู่การ พ้นจากตำแหน่ง

สมาชิกพปชร. รื้อ "คดีฟุตซอล" ร้อง กกต. สอบ "นายกฯอิ๊งค์" พ่วง "3 รมต." ส่อเข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง เป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่ง


วันที่ (14 พฤศจิกายน 2567) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตนใช้เวลาศึกษาคดีฟุตซอลมานานพอควร จนศาลฎีกาตัดสินว่ามีความผิดอาญาไปแล้วหนึ่งคดี ซึ่งทำให้เห็นได้ว่า คดีนี้เป็นการใช้งบแปรญัตติปี 2555 ของ สพฐ. โดยไม่ชอบ และมีวงเงินสูงถึง 4,459.42 ล้านบาท โดยเป็นพรรคเพื่อไทย 2,568.42 ล้านบาท และพรรคการเมืองอื่น ๆ เป็นเงิน 1,891.00 ล้านบาท โดยตนมีรายชื่อที่ได้มาจากเอกสารในสำนวนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกือบทุกราย

นายเรืองไกร กล่าวว่า คดีฟุตซอลมีความล่าช้ามาก ซึ่งต้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้แจงต่อสาธารณชนเอง แต่สำหรับเรื่องที่ตนร้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทางไปรษณีย์ EMS วันนี้ เป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรีไปแต่งตั้งรัฐมนตรี 3 ราย ซึ่งปรากฏชื่ออยู่ในเอกสารสำนวนคดีที่ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยทั้ง 3 ราย นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 ดังนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ,นางมนพร เจริฐศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายเรืองไกร กล่าวว่า ต่อมาวันที่ 5 กันยายน 2567 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม.11/2567 ได้มีคำพิพากษาสรุปได้ว่า “พยานหลักฐานจากการไต่สวนจึงมีเหตุผลและน้ำหนักให้รับฟังว่า จำเลยที่ 1 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำบัญชีรายละเอียดขอสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้มีการดำเนินการตามบัญชีคุมยอดรายการแปรญัตติ (ใบโควตา) ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ (งบแปรญัตติ) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน อันเป็นการเข้าไปมีส่วนร่วมในการใช้เงินงบประมาณโดยมิชอบ”

นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อย้อนไปตรวจสำนวนคดีหน้า 09870 พบว่า จำเลยที่ 1 คือ นางสมหญิง บัวบุตร สส. อำนาจเจริญ เขต 1 พรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 132 ได้งบประมาณ 60,000,000 บาท เมื่อตรวจสอบรายชื่อก่อนหน้านี้ หน้า 09867 ลำดับที่ 38 มีชื่อนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ สส. กทม. เขต 20 พรรคเพื่อไทย ได้งบประมาณ 20,000,000 บาท หน้า 09868 ลำดับที่ 51 มีชื่อนายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส. นครราชสีมา เขต 14 พรรคเพื่อไทย ได้งบประมาณ 2,000,000 บาท ลำดับที่ 69 มีชื่อนางมนพร เจริญศรี สส. นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย ได้งบประมาณ 13,000,000 บาท

นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีตามพยานหลักฐานในสำนวนคดีที่ศาลรับฟังแล้ว ย่อมเป็นข้อเท็จจริงที่อาจทำให้เข้าใจได้ว่า รัฐมนตรีทั้ง 3 คน ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งไปนั้น อาจจะมีการเข้าไปมีส่วนร่วมในการใช้เงินงบประมาณโดยมิชอบด้วย กรณี จึงไม่ควรจะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอีกต่อไป ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา มาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5)

นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อตนทราบข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ปรับรัฐมนตรีทั้ง 3 ราย ออกจากตำแหน่ง แต่นายกรัฐมนตรีกลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ กรณีดังกล่าวจึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี 3 ราย เข้าข่ายมีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หรือไม่ หรือมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง หรือไม่ กรณี จะเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่ ทั้งนี้ตามแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 21/2567

ที่มา : MgrOnline