ไม่รอด! เจ้าภาพกฐิน หลอกเจ้าอาวาส 6.5 แสน จนเครียดจบชีวิตในวัด

เผยแพร่ : 22 ต.ค. 2567 22:44:48
X
• เจ้าภาพกฐิน วัดโบสถ์ จ.พระนครศรีอยุธยา หลอกเอาเงินเจ้าอาวาสไป 650,000 บาท
• เจ้าอาวาสเครียดหนักจนจบชีวิตตนเองในวัด
• เจ้าภาพอ้างว่าแค่ขู่ ไม่คิดว่าเจ้าอาวาสจะเครียดหนักขนาดนั้น
• หลังจากเอาเงินไป เจ้าภาพหนีซ่อนตัวในป่าช้า

พระนครศรีอยุธยา - ไม่รอด!เจ้าภาพกฐิน หลอกเอาเงินเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ 650,000 บาท เครียดจนจบชีวิตตังเองในวัด เผยนึกว่าขู่ไม่คิดว่าจะทำจริง เปิดปากหลังนำเงินไป หนีซ่อนตัวตามป่าช้า

กรณี เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา จบชีวิตภายในวัด พร้อมเขียนจดหมายบรรยายถูก นายเล็ก ชายวัยกลางคน มาตีสนิทก่อนออกตัวจองกฐินทำบุญกับวัด แล้วออกอุบายให้เจ้าอาวาสยืมเงินญาติโยม 6.5 แสนบาท แล้วหายตัวไป เจ้าอาวาสเกิดความเครียดก่อเหตุสลด เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00.น วันนี้( 22 ต.ค.) พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภจว.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาที่ สภ.เสนา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ เสนา พร้อมพนักงานสอบสวน ได้ ขออำนาจศาลออกหมายจับ นายสัญญา โกสวัสดิ์ ชาวจังหวัดแพร่ ซึ่งต้องหากระทำความผิดฉ้อโกง หลังจากไปควบคุมตัวนายสัญญา ได้ที่ ขณะหลบหนี

พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภจว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าหลังจากที่กรณีพระครูวรวัฒน์เขมากร (ชัยวัฒน์ ตรีธนะ) อายุ 68 ปี เจ้าอาวาสวัดโบสถ์(บน) ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา ผูกคอเสียชีวิต ภายในวัดนั้น เกิดจากสาเหตุถูกนายสัญญา เข้ามาหลอกยืมเงิน จำนวน 650,000 บาท และหลอก หลวงพ่อว่าจะมาขอเป็นเจ้าภาพร่วมทอดกฐิน โดยจะนำเงินที่ยืมและเงินที่จะมาร่วมทอดกฐิน นำมาให้ในวันที่ทอดกฐินวันที่ 27 ตุลาคม แต่หลังจากที่ได้เงินไปแล้ว และครบกำหนดวันที่จะนำเงินมาคืน ก็หายเงียบไป ทางหลวงพ่อได้โทรศัพท์ติดต่อนายสัญญา และมีการพูด ทวงถามเงินที่ยืมไปโดยนายสัญญาก็บอกกับหลวงพ่อว่าไม่โกงเดี๋ยวจะหามาให้

แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนเกิดภาวะความเครียด จึงก่อเหตุสลด จนพร้อมเขียนจดหมายทิ้งไว้ หลังจากที่หลวงพ่อเสียชีวิต ได้ประชุมและสั่งการให้พนักงานสอบสวน ออกหมายเรียก นายสัญญา โดยได้นำหมายเรียกไป ฝากไว้กับภรรยาของนายสัญญาซึ่งเช่าหออยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี แต่เนื่องด้วย เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นคดีที่สะเทือนใจต่อชาวพุทธ ตนจึงได้ให้พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ที่มีอยู่ไปยื่นต่อศาลเพื่อให้ศาลออกอนุมัติหมายจับ จนถึงการนำไปสู่การจับกุมตัวนายสัญญาขณะ ขี่รถจักรยานยนต์ ในเขตพื้นที่อำเภอสองพี่น้องจังหวัดสุพรรณบุรี

นายสัญญา ให้การโดยอ้างว่า ได้ยืมเงินหลวงพ่อไปจริง แค่ 4 แสนบาท และคืนไปบางส่วนแล้ว ซองกฐินที่ตนเก็บมาก็มอบให้เจ้าอาวาสไปหมดแล้ว เงินที่ได้ไปตนเอาไปซื้อหวยจนหมด เจ้าอาวาสได้ทวงถามเงินจากตน และบอกว่าถ้าไม่ได้จะฆ่าตัวตาย คิดว่าท่านพูดข่มขู่ เจ้าอาวาสเล่นหวยกับตนด้วย ซึ่งตนกำลังจะมามอบตัวแต่ถูกจับตัวได้ก่อน ช่วงที่หลบหนีก็ตระเวนไปหลบซ่อนตัวตามป่าช้าของวัด

ด้าน นายนิวัฒน์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า คนร้ายก่อเหตุหลายพื้นที่ในหลายจังหวัด ทั้ง จ.สมุทรสาคร จ.นครปฐม จ.สุพรรณบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะใช้ความเชื่อนำความศรัทธาไปหลอกลวงชาวบ้าน โดยเฉพาะเจ้าอาวาส ซึ่งท่านเป็นนักพัฒนามีความตั้งใจที่จะพัฒนาวัด จึงหลงเชื่อผู้ต้องหา โดยขณะนี้ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ บก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา จะร่วมกันเป็นเจ้าภาพทอดกฐินให้วัดในวันที่ 27 ต.ค.นี้ เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าวาส จึงขอเรียนเชิญพี่น้องประชาชนร่วมทำบุญ

ต่อมาเวลา 19.00 น. นายนิวัฒน์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เดินทางไปเป็นประธานพิธีสวดพระอภิธรรมศพ พระครูวรวัฒน์เขมากร (ชัยวัฒน์ ตรีธนะ) อายุ 68 ปี เจ้าอาวาสวัดโบสถ์(บน) ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ศาลาการเปรียญโดยมีประชาชน มาร่วมฟังพระเทศน์และสวดพระอภิธรรมศพเป็นจำนวนมาก ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เข้าไปพูดคุยกับญาติของหลวงพ่อ และให้กำลังใจ โดยบอกกับทางญาติว่าตอนนี้ทางตำรวจได้จับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว ทางญาติถึงกับร้องไห้ ทางด้านประชาชนญาติโยมที่ทราบข่าวต่าง ดีใจ ที่ทางตำรวจนั้นได้จับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ เพียงไม่กี่วัน ซึ่งบรรยากาศ ในงานสวดพระอภิธรรมก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้า






ที่มา : MgrOnline