รวบสิบโทภัยสังคม ลวงหญิงผ่านแอปฯ หาคู่ ก่อนลักทรัพย์-กรรโชก-แบล็คเมล์

เผยแพร่ : 22 ต.ค. 2567 22:04:39

ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี จับกุมทหารยศสิบโท หาเหยื่อผ่านแอปฯ หาคู่ ก่อนลักทรัพย์สินและขู่ให้โอนเงิน พบหนีราชการ จำหน่ายออกไปแล้วเมื่อเดือน ส.ค. ก่อเหตุมากกว่า 10 ราย บางรายถึงขั้นแอบถ่ายคลิปมีเพศสัมพันธ์เพื่อแบล็คเมล์ ก่อนหน้านี้เคยลักรถจากอีสานลงมา กทม. แต่ตามรถมาได้

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เข้าจับกุม ส.ท.ศุภกร สุดวิสัย หรือฟิล์ม อายุ 22 ปี ชาวตำบลวาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลมณฑลทหารบกที่ 24 จังหวัดอุดรธานี ที่ 36/2567 ลงวันที่ 11 ต.ค. 2567 ในข้อหาลักทรัพย์และกรรโชกทรัพย์ โดยจับกุมได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครสกลนคร จังหวัดสกลนคร ขณะเปิดห้องพักเอาไว้ก่อเหตุล่อลวงกับผู้หญิงอีกรายหนึ่ง

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายรายหนึ่ง เพศหญิง อายุ 22 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่า ถูก ส.ท.ศุภกร ลักทรัพย์และกรรโชกทรัพย์ โดยให้การว่า รู้จักกับ ส.ท.ศุภกรผ่านแอปพลิเคชันหาคู่โอมิ (Omi) เมื่อต้นเดือน ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา อ้างว่าเป็นทหารนายสิบ มีอาชีพมั่นคง ก่อนติดต่อพูดคุยกันผ่านอินสตาแกรม และคบหาดูใจกัน

ต่อมา ส.ท.ศุภกร ได้ขอเข้ามาพักที่ห้องพักในเขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงตอบตกลงให้มาพัก ก่อนที่ ส.ท.ศุภกร ได้เดินทางมาหาผู้เสียหายที่ห้อง กระทั่งวันที่ 13 ก.ย. 2567 ผู้เสียหายออกไปทำงาน ปรากฎว่า ส.ท.ศุภกร ได้ลักขโมยคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง และรถเก๋ง 1 คัน ก่อนข่มขู่ผู้เสียหายให้โอนเงิน หากไม่โอนเงินให้จะลบข้อมูลสำคัญในคอมพิวเตอร์ จึงได้เข้าแจ้งความ

ต่อมาชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี สืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ ส.ท.ศุภกร สุดวิสัย เป็นทหารเหล่าสื่อสาร สังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา แต่ถูกต้นสังกัดจำหน่ายว่าหนีราชการไปตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 2567 ทำให้ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ยื่นคำร้องขออนุมัติศาลมณฑลทหารบกที่ 24 ออกหมายจับ

เมื่อศาลอนุมัติหมายจับ และลงพื้นที่สืบหาคนร้าย กระทั่งทราบว่า ส.ท.ศุภกร เดินทางมายังจังหวัดสกลนครเพื่อก่อเหตุอีกครั้ง และได้เข้าจับกุมขณะกำลังแชตกับเหยื่อรายใหม่ผ่านแอปฯ หาคู่ ก่อนควบคุมมาสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี

จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา พบว่า ส.ท.ศุภกร ใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่ Omi และ Tinder ในการหาเหยื่อ และมีการล็อกอินเฟซบุ๊กในเครื่องอีก 8 บัญชี ไว้ใช้หลอกเหยื่อคบหากันเพื่อรีดเอาทรัพย์ นอกจากนี้ที่บ้านพักของ ส.ท.ศุภกร ยังแอบติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ภายในห้องนอน มีการชักชวนผู้เสียหายมาหาที่บ้านพัก และมีเพศสัมพันธ์เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจ

เมื่อผ่านวันนั้นไปแล้ว ก็จะใช้บัญชีเฟซบุ๊กที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ทักไปหาผู้เสียหายและคนรู้จักของผู้เสียหาย พร้อมส่งคลิปแอบถ่ายขณะมีเพศสัมพันธ์ เพื่อข่มขู่เอาเงินจากเหยื่อ โดยมีวีดีโอคลิปแอบถ่ายในโทรศัพท์มือถือจำนวนหนึ่ง และพบว่ามีการหลอกเหยื่อเน้นไปที่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 20-30 ปี โดยมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความไม่ต่ำกว่า 10 คดี

ส.ท.ศุภกร รับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยตระเวนหลอกผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์แล้วขโมยทรัพย์สินไปเรื่อยๆ ทรัพย์สินที่ได้จะนำไปขายเพื่อนำเงินไปลงทุนในฟอเรกซ์ (Forex) สาเหตุเพราะก่อนหน้านี้เคยกู้เงินธนาคารไปลงทุนแล้ว ขาดทุนไปประมาณ 1 ล้านบาท จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังมีหมายจับศาลมณฑลทหารบกที่ 21 จังหวัดนครราชสีมา ที่ 80/2567 ลงวันที่ 7 ต.ค. 2567 ในข้อหายักยอกทรัพย์อีกด้วย ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี จึงนำตัว ส.ท.ศุภกร ส่งศาลมณฑลทหารบกที่ 24 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้ ส.ท.ศุภกร ก่อเหตุลักรถยนต์เก๋งเอ็มจี รุ่นเอ็มจีไฟว์ ของผู้เสียหายรายหนึ่ง จากจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2567 ก่อนขับลงมายังกรุงเทพมหานคร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดรถคืนมาได้ และมีตัวแทนผู้เสียหายไปรับรถยนต์คืนที่ สน.บางพลัด กรุงเทพฯ เมื่อคืนวันที่ 11 ต.ค. 2567 แต่ยังจับกุมตัว ส.ท.ศุภกร ไม่ได้ กระทั่งมาจับกุมได้กับคดีดังกล่าว

นอกจากนี้ ข้อมูลในเว็บไซต์ blacklistseller.com พบว่ามีชื่อ ศุภกร สุดวิลัย เคยก่อเหตุทักไปหาผู้เสียหายรายหนึ่งเพื่อติดต่อขายบัตรเงินสดทรูมันนี่ 14 ใบ ในราคา 11,900 บาท และผู้เสียหายได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี นายศุภกร สุดวิสัย เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2567 ปรากฎว่าเติมเงินได้เพียง 5 ใบ ที่เหลืออีก 9 ใบ ใช้งานไม่ได้ แล้วพบว่าผู้ก่อเหตุนำไปเติมใช้เอง ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางขุนนนท์ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2567




ที่มา : MgrOnline