“สุริยะ” ยันแก้สัญญาไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน ไม่เอื้อประโยชน์ใคร ยกเหตุโควิดทำรัฐ-เอกชน ต่างก็ผิดสัญญา
เผยแพร่ : 22 ต.ค. 2567 11:05:20
• รัฐมนตรีสุริยะ แจ้งการแก้ไขสัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ผู้ใด
• อ้างเหตุการณ์โควิด-19 เป็นสาเหตุให้ทั้งรัฐบาลและเอกชนผิดสัญญา
• เน้นย้ำการแก้ไขสัญญาเป็นการช่วยเหลือทั้งสองฝ่าย
• เล็งให้ผู้รับเหมาวางหนังสือค้ำประกันเพื่อสร้างความมั่นใจ
“สุริยะ” แจงแก้สัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ไม่มีเอื้อประโยชน์ อ้างเหตุโควิด ทำรัฐ-เอกชน ต่างผิดสัญญา เล็งผู้รับเหมาต้องวางหนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร หวั่นทิ้งงาน พร้อมจ้างรายอื่นสร้างต่อทันที เชื่อทำความเข้าใจพรรคได้
วันที่ 22 ต.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขสัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (อู่ตะเภา-สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง) ว่า วันนี้ยังไม่เข้าศูนย์ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา พร้อมยืนยันว่า การแก้ไขสัญญา เกิดจากเอกชนและภาครัฐผิดสัญญา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้โครงการเกิดความล่าช้า รัฐบาลไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้กับเอกชนได้ ขณะที่เอกชนก็ไม่สามารถดำเนินการได้ จึงเป็นต่างคนต่างผิดสัญญา จึงต้องพิจารณาใหม่ เนื่องจากเป็นหนึ่งในโครงการยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งหากเชื่อม 3 สนามบินจะทำให้ประชาชนเดินทางสะดวก การค้าขายดีขึ้น จึงต้องเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป จึงต้องมาพิจารณาร่วมกันในการแก้ไขสัญญา เพื่อไม่ให้รัฐเสียประโยชน์ โดยสัญญาเดิมจะให้เอกชนสร้างจนเสร็จ และหลังจากนั้น 10 ปีรัฐบาลจะค่อยชำระเงิน
นายสุริยะ กล่าวว่า ในส่วนของสัญญาใหม่ จะให้เอกชนนำเงินมาวางค้ำประกันจากธนาคารเพื่อการันตี และเมื่อสร้างเสร็จ รัฐบาลจะคืนหนังสือค้ำประกันโดยธนาคารหรือแบงก์การันตีให้ โดยในการก่อสร้างแล้วเสร็จแต่ละช่วง จะแบ่งเป็นแต่ละสัญญา หากมีการทิ้งงานรัฐจะนำเงินค้ำประกันจ้างผู้ประกอบการรายใหม่
นายสุริยะ กล่าวยืนยันว่า ไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใหญ่ โดยดอกเบี้ยเอกชนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมระบุว่าไม่สามารถเอื้อประโยชน์ให้ได้ เนื่องจากสัญญาได้ให้อัยการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว โดยการนำเข้า ครม.จะผ่านโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก.หรือ EEC โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับผิดชอบ
นายสุริยะ ยังกล่าวอีกว่า จะสามารถทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจในการแก้ไขสัญญาโครงการดังกล่าวได้
ที่มา : MgrOnline