ควาญช้าง ENP ไม่จบ! ซัดทีมย้าย “พลายดอกแก้ว” วางแผนไม่ดี

เผยแพร่ : 21 ต.ค. 2567 21:54:49
X
• ควาญช้าง ENP วิพากษ์วิจารณ์ทีมที่ย้าย "พลายดอกแก้ว" ว่าวางแผนไม่ดี
• ตำหนิการนำคนจำนวนมากมา ทำให้รบกวนช้างเชือกอื่นที่ต้องการความสงบ
• เห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะสร้างความวุ่นวาย
• แนะนำการทำงานกับช้าง คนเลี้ยงช้างควรถือเอาสัจจะเป็นที่ตั้ง
• ย้ำว่าคนร่วมอาชีพเดียวกันควรมีความจริงใจ

ควาญช้าง ENP ไม่จบ ฉะซัดทีมย้าย “พลายดอกแก้ว” วางแผนไม่ดี นำคนมาเยอะรบกวนช้างเชือกอื่นที่ต้องการความสงบ ติงไม่สมควรสร้างความวุ่นวาย แนะการทำงานกับช้างคนเลี้ยงช้างควรถือเอาสัจจะเป็นที่ตั้ง ชี้คนร่วมอาชีพเดียวกันควรมีความจริงใจต่อกัน

จากกรณีภารกิจการเคลื่อนย้ายพลายดอกแก้วออกจากศูนย์บริบาลช้าง Elephant Nature Park (ENP) ไปยังปางช้างภัทร ฟาร์ม ซึ่งภารกิจนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากว่าพลายดอกแก้วอาละวาด พังกรงออกมา แม้ว่าจะมีการให้ยาซึมไปแล้วก็ตาม นอกจากนี้ มีผู้พบเห็นว่าพนักงานของศูนย์บริบาลช้าง Elephant Nature Park หลายคนพยายามที่จะถือกล้องมือถือเพื่อการไลฟ์สด และส่งเสียงเรียกพลายดอกแก้ว รบกวนการเคลื่อนย้ายช้าง จนทำให้พลายดอกแก้วตกใจ วิ่งไปตกหล่มโคลน แม้ว่าสัตวแพทย์จะเตือนให้คนเหล่านั้นออกห่างมาแล้ว แต่คนเหล่านั้นไม่ปฏิบัติตาม พยายามที่จะไลฟ์สดตลอดเวลา การกระทำของคนเหล่านั้นที่ฝ่าฝืนคำเตือนของสัตวแพทย์ทำให้การเคลื่อนย้ายพลายดอกแก้วที่เป็นไปด้วยความยากลำบากอยู่แล้วลำบากขึ้นไปกว่าเดิมนั้น อาจจะเป็นการกระทำโดยพลการ โดยไม่ได้รับความยินยอม หรือคำสั่งจากผู้บริหาร ENP เนื่องจากก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายพลายดอกแก้วได้มีการทำข้อตกลงกันระหว่าง ENP กับทีมงานเคลื่อนย้ายแล้วว่าจะไม่มีการไลฟ์สด ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (21 ต.ค.) เฟซบุ๊ก “Panapon Tongaek" ควาญช้างของแสงเดือน ชัยเลิศ ประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม หรือ ENP ระบุว่า “สวัสดีครับ ผมเป็นหัวหน้าควาญช้างที่มูลนิธิฯ นะครับ
พวกผมเงียบมานานแล้วนะครับ แต่ถ้าไม่พูดสังคมจะคิดว่าการเงียบคือการยอมรับว่าสิ่งที่ใครบางคนพูดคือความจริงทั้งหมด

การมาย้ายช้างดอกแก้ว ทางมูลนิธิฯ ให้ความร่วมมือทุกอย่างไม่ว่าจะขอให้ทำอะไรอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง วันแรกอยากเอารถมารับที่ประตูหลังก็ทุบเคลียร์กำแพงให้ พอเคลียร์ประตูหลังเสร็จไม่ขนออกไปแต่ไปออกข่าวว่ามูลนิธิฯ ไม่เปิดประตูให้??

หลังจากที่ทุบประตูด้านหลังแล้ว พวกเราต้องจัดควาญมานอนเปลี่ยนเวรกันถึงคืนละสี่คนเพื่อป้องกันไม่ไห้ดอกแก้วหลุดเพราะกำแพงที่ทุบไปหนึ่งชั้นทำให้คนข้างนอกที่เดินถนนสามารถเดินเข้าออกช่องกำแพงได้ พวกเราต้องหาคนมาป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น และการที่กำแพงที่เปิดโล่งอย่างนั้นอาจสร้างสิ่งเร้าใจให้ดอกแก้วเกิดความโมโหจากการยั่วยุจากคนข้างนอก

ต่อมาขอเปลี่ยนแผนมาขอใช้ประตูหน้าที่เราใช้คานเหล็กที่ทำอย่างแน่นหนาในการทำประตู และในการทำงานขนช้างของมูลนิธิฯ เราไม่เคยเอารถขนช้างผ่านเข้าไปในประตู ทุกครั้งที่เอาช้างขึ้นลงเราเอาช้างมาขึ้นหรือลงนอกประตูเท่านั้นเพื่อป้องกันการรบกวนช้างอื่นที่นอนอยู่ในพื้นที่นั้น

เมื่อทีมขนช้างดอกแก้วร้องขอมาจะเอารถเข้าให้ได้ เราก็ยอมแม้กระทั่งขุดดินตรงประตูลงไปถึงคานประตูลงไปเมตรกว่า ก่อนจะให้ขุด ทางทีมคน ทีมรถก็มาวัดกันแล้ว แต่การไปต่อเติมรถภายหลังรถเข้าไม่ได้ เพราะความยาวเลี้ยวไม่ได้และความสูงที่ต่อเติมมามันสูงเกินมาตรฐานต่อให้เป็นถนนของทางหลวงก็เข้าไม่ได้ครับเพราะต่อเติมมายาวขนาดนั้น ความยาวของรถมันเข้าไม่ได้ มันไม่ใช่ความผิดของประตูครับ

เรื่องของคนที่ว่ามามาก ถ้าต้องการมาแบบเงียบๆ เห็นแก่ช้างก็ให้ย้ายแบบเงียบๆ นะครับ ทาง ENP และมูลนิธิฯ เขาไม่มีไลฟ์ไม่มีการประชาสัมพันธ์หรือเชิญชวนใครมา ที่มาวุ่นวายไปหมดนั่นไม่ใช่ทางเราเชิญมานะครับ ช้างของเราที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นต้องการสงบสุขไม่ต้องการคนมามากมายขนาดนั้น ดังนั้นขอร้องนะครับคนที่ไม่เกี่ยวข้องไม่สมควรมาสร้างความวุ่นวายนะครับ เวลามาทำงาน

วันที่จะมาขนวันที่สองเวลานัดครั้งแรกแปดโมงเช้า ทางมูลนิธิฯ เขาเตรียมคนที่จำเป็นไว้ช่วย พวกผมมานั่งรอตั้งแต่แปดโมงเช้า เลื่อนไปสิบเอ็ดโมง เลื่อนเป็นบ่ายสองโมงและมาถึงจริงๆ บ่ายสามโมงกว่า ทุกคนทำงานด้วยความอดทนอดกลั้นต่อคำพูดที่ไม่จริงมานานแล้ว

ตอนวางยาช้างดอกแก้ว วางครั้งแรกในเวลา 5 โมง ซึ่งทางเราเห็นว่ามีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยทั้งคนและสัตว์เพราะจะเข้ายามวิกาลแล้ว ความมืดจะทำให้การสังเกตอาการของช้างได้ไม่เต็มร้อย ทางพวกเราได้ให้ความเห็นว่าถ้ามันเข้าสู่ความมืดมันจะไม่ปลอดภัยทั้งคนทั้งสุขภาพช้าง แต่เนื่องจากในระหว่างวางยาเกิดฝนพายุกระหน่ำมาอย่างหนัก ดอกแก้วจึงได้เดินหลบฝนไปสู่ใต้คอกที่นอน ดอกแก้วเป็นช้างสุขภาพดีไม่เคยเจ็บป่วยทำให้ร่างกายต้านสิ่งแปลกปลอมได้ดี และยาซึมที่วางไว้เข็มแรกไม่สามารถทำให้ดอกแก้วซึมได้ หมอจึงทำการวางเข็มที่สองในเวลา 18.04 น. จนกระทั่งเวลา 18.42 น.ทีมขนช้างก็ออกเดินทางกลับโดยมีคุณหมอต้นและควาญจากทีมขนช้างอยู่รอดูออาการช้างกับทางทีมหมอของมูลนิธิฯ จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น.คุณหมอต้นก็ออกจากพื้นที่ แต่ยังมีทีมสัตวแพทย์และควาญช้างของทางมูลนิธิฯ อยู่รอดูอาการน้องดอกแก้วจนถึงสามทุ่ม เมื่อคุณหมอของมูลนิธิฯ เห็นว่าอาการน้องดีแล้วจึงอนุญาตให้ควาญเอาอาหารมาให้ดอกแก้ว เพราะดอกแก้วไม่ได้กินอาหารมาทั้งวันเนื่องจากการอดอาหารในการวางยา

การทำงานกับช้างคนเลี้ยงช้างจะถือเอาสัจจะเป็นที่ตั้ง คนร่วมอาชีพเดียวกันควรมีความจริงใจต่อกันเห็นอกเห็นใจกันครับ จากใจคนทำงานกับช้างมาอย่างยาวนาน”


ที่มา : MgrOnline