สรุปข่าวประเด็นสำคัญ: * **ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลชื่นมื่น**: หัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลร่วมดินเนอร์กันอย่างอบอุ่น * **"นายกฯ อิ๊งค์" ขอเพิ่มการสื่อสาร**: น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขอให้หัวหน้าแต่ละพรรคสื่อสารและพูดคุยการทำงานมากขึ้น * **ภูมิใจไทยเป็นเจ้าภาพเดือนหน้า**: พรรคภูมิใจไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานดินเนอร์ในเดือนตุลาคม * **วันเวลาและสถานที่**: เวลา 20.00 น. วันที่ 21 ตุลาคม ที่โรงแรมโรสวูด
"นายกฯ อิ๊งค์" เผยบรรยากาศดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเป็นไปด้วยดี ได้หารือในเรื่องที่ควรหารือ หลังเชิญสื่อออกจากห้อง คุยกันเรื่องเซนซิทีฟได้ ขอหัวหน้าแต่ละพรรคลดกำแพง สื่อสารพูดคุยการทำงานมากขึ้น เดือนหน้าภูมิใจไทยเป็นเจ้าภาพ

เวลา 20.00 น.วันที่ 21 ต.ค. ที่โรงแรมโรสวูด ภายหลังงานเลี้ยงอาหารค่ำหัวหน้าและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า การพูดคุยวันนี้พูดคุยกันหลายเรื่องที่คิดจะทำร่วมกัน รวมถึงการทำงานต่อไป โดย บรรยากาศเป็นไปด้วยดี คุยกันแบบสบายๆ และได้หารือในเรื่องที่ควรหารือและอยากให้มีดินเนอร์ในลักษณะนี้ไม่ห่างเกินไป โดยในครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นเจ้าภาพ โดยการหารือเป็นเรื่องของการทำงาน และหลังจากการเข้าร่วมประชุมเอเปกจะเชิญแต่ละกระทรวงเข้ามาพูดคุย เพื่อให้ทราบถึงปัญหาหรือแนวทางที่จะทำงานต่อ นอกจากคุยพรรคร่วมรัฐบาลแล้วจะมีการนัดแยกคุยระหว่างกระทรวง

เมื่อถามว่าในการพูดคุยมักจะมีแต่เรื่องดี แต่เรื่องที่เป็นลบหรือเป็นการติเพื่อก่อบ้างได้คุยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้คุยตั้งแต่เริ่มนับตั้งแต่เชิญสื่อออกจากห้อง เพราะเวทีนี้เป็นห้องปิดที่สามารถคุยเรื่องเซนซิทีฟและลงในรายละเอียดได้ และเรื่องไหนที่ต้องคุยในกลุ่มเล็ก หรือคุยเป็นคู่ก็ได้เกิดขึ้นในเวทีนี้

เมื่อถามว่านายกฯ ได้ขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอความร่วมมือไปหลายเรื่อง โดยเฉพาะความร่วมมือในการทำงานเพราะเป็นนายกฯ ได้ไม่นาน จึงอยากให้ทุกคนพูดคุยกันและคิดว่าเรื่องของการสื่อสารสำคัญ ทั้งการสื่อสารกันเองใน ครม. ในพรรคร่วมและการสื่อสารกับประชาชน โดยลดกำแพงลงเพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสารซึ่งกันและกัน นอกนั้นการพูดคุยเป็นเรื่องคลายเครียดและเรื่องตลก

ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องการนิรโทษกรรม ได้พูดคุยหรือไม่ว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อย่างที่บอกมีทั้งเรื่องที่เห็นตรงกันและเห็นไม่ตรงกัน เพราะเป็นประชาธิปไตย แต่ทุกเรื่องสามารถตกลง พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ โดยรายละเอียดเป็นเรื่องเซนซิทีฟ และขอให้เป็นเรื่องของสภาฯว่ากันต่อไป รัฐบาลและสภาแยกกันโดยไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องทะเลาะเบาะแว้งกัน

เมื่อถามว่าทางเรื่องการนิรโทษกรรมและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ให้เป็นเรื่องของสภาฯแล้ว จะต้องพรรคร่วมจะต้องเห็นไปในแนวทางเดียวกันหรือให้เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจน และในการพูดคุยวันนี้หากจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเว้นหมวดหนึ่งและหมวดสอง ซึ่งเป็นสิ่งที่พูดคุยและเห็นพ้องต้องกันมาตลอด ส่วนเรื่องของการแก้ไขธรรมนูญขอไม่ลงในรายละเอียดให้เป็นเรื่องของรัฐสภาว่ากันไป

เมื่อถามย้ำถึงจุดยืนเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ เราไม่แตะมาตรา 112 อยู่แล้ว และพูดย้ำในทุกเวที“

ที่มา : MgrOnline