แม้แต่ผียังถูกไล่ที่ ชาวบ้านลพบุรีลุกฮือหาทางช่วย วัดล้อมรั้วยึดพื้นที่สุสานอ้างมีโฉนด

เผยแพร่ : 21 ต.ค. 2567 17:59:07
X
• ปัญหา: วัดล้อมรั้วยึดพื้นที่สุสานและที่เก็บศพไร้ญาติของมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ อ้างมีโฉนดถูกต้อง
• ประวัติ: พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่เก็บศพไร้ญาติและสุสานของมูลนิธิมาแล้วกว่า 60 ปี
• ผลกระทบ: ศพไร้ญาติจำนวนมากไม่มีที่อยู่ใหม่ ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของชาวบ้าน
• การเคลื่อนไหว: ชาวบ้านลุกฮือเรียกร้องให้หาที่อยู่ใหม่ให้กับผี
• ข้อสังเกต: การกระทำของวัดอาจขัดต่อจารีตประเพณีและความรู้สึกของคนในชุมชน

ลพบุรี - ผีเดือดร้อน ชาวบ้านลุกฮือช่วยหาที่อยู่ผี หลังวัดล้อมรั้วยึดพื้นที่สุสานและที่เก็บศพไร้ญาติอ้างมีโฉนดถูกต้อง ทั้งๆ ที่พื้นที่ดังกล่าวมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ใช้เก็บศพไร้ญาติ และมีสุสานมานานกว่า 60 ปี

วันนี้ (21 ต.ค.) ที่สุสานมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ อยู่ติดกับวัดนิคมสามัคคีชัย หรือ วัดบ่อ 6 ตำบลนิคมสร้างตนเอง อ.เมืองลพบุรี ได้มีกลุ่มชาวบ้าน และคณะกรรมการมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ ธนันทา ปลัดอำเภอเมืองลพบุรี และเจ้าหน้าฝ่ายปกครอง ได้ไปทำการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งทางมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ได้ใช้พื้นที่ดังกล่าวในการสร้างเป็นสถานที่เก็บศพไร้ญาติ

รวมทั้งเป็นที่ดินที่ทางกลุ่มคนจีนได้ซื้อพื้นที่เพื่อทำเป็นสุสาน หรือฮวงซุ้ย เก็บศพบรรพบุรุษ ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงได้พูดคุยกับนายกัญจตังค์ กิจรัตนกาญย์ กรรมการมูลนิธิลพบุรีสงเคราะห์ ทราบว่าเดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่จับจอง และมีกลุ่มคนจีนได้รวบรวมเงินซื้อไว้เพื่อใช้สร้างเป็นสุสานและที่เก็บศพไร้ญาติ พื้นที่กว่า 8 ไร่ และมอบให้วัดดูแล ซึ่งดำเนินการก่อสร้างกันมากว่า 60 ปี สถานที่แห่งนี้ทางมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ ได้ก่อสร้างใช้เป็นที่เก็บศพไร้ญาติที่ทางเจ้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนสืบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งโรงพยาบาลต่างๆได้ให้ทางมูนิธิลพบุรีสงเคราะห์นำศพเหล่านั้นมาเก็บดูแลรักษาไว้เป็นเวลา 2 ปี หลังจากนั้น จะทำการนำศพไร้ญาติไปทำพิธีฌาปนกิจซึ่งแต่ละครั้งจะมีไม่ต่ำกว่า 20 ศพ

และเมื่อประมาณ 5 วันที่ผ่านมา ทางวัดนิคมสามัคคีชัย หรือวัดบ่อ 6 ได้ว่าจ้างคนงานให้มาทำการล้อมรั้วปิดเส้นทางเข้าสุสานซึ่งตรงนี้ได้มีการแจ้งความกับเจ้าที่ตำรวจแล้ว ซึ่งทางมูลนิธิเห็นว่าเมื่อทางวัดทำแบบนี้ถือว่าเป็นการปิดทางเข้าออกไม่สามารถที่จะเข้าไปนำศพไร้ญาติไปเก็บในสุสาน รวมทั้งบรรดาญาติของบรรพบุรุษที่ไม่สามารถเข้าไปกราบไหว้ได้ จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าที่มาทำการตรวจสอบ

ซึ่งในเบื้องต้นในสถานที่ดังกล่าวได้มีการก่อสร้างที่สำหรับเก็บศพขึ้นมาใหม่ ส่วนของเดิมซึ่งในขณะนี้มีศพไร้ญาติอยู่สร้างไว้ด้านในและมีการผุพังตามกาลเวลาจึงได้ย้ายออกมาสร้างด้านนอกเพื่อจะได้นำศพไร้ญาติเข้ามาเก็บไว้เพื่อดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายกัญจตังค์ กล่าวว่าเดิมได้พูดคุยกับทางจะเอาวาสวัดนิคมสามัคคีชัยรูปเก่า ซึ่งมรณภาพไปแล้วได้พูดคุยตกลงกันว่าทางวัดจะขอใช้พื้นที่ด้านในซึ่งเป็นที่สร้างสถานที่เก็บศพไร้ญาติเก่าเพื่อทำเป็นสถานที่ฌาปนกิจหรือเมรุ ซึ่งทางมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าวอยู่ได้ตกลงให้ทางวัดใช้พื้นที่ด้านหลังซึ่งอยู่นอกเขตที่มีฮวงซุ้ยอันสุดท้าย ซึ่งการพูดคุยตกลงกันด้วยดีเสมอมา และหลังจากนั้นทางมูนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ได้มาสร้างสถานที่เก็บศพไร้ญาติขึ้นใหม่ด้านนอก จนกระทั่งในขณะนี้ทางวัดนิคมสามัคคีชัยได้มาสร้างรั้วปิดเส้นทางเข้าสุสานจึงก่อให้เกิดความเดือดร้อนดังกล่าว

ทางด้านนายวีระ จำลอง ผู้อำนวยการสำนักพุทธจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า ทางวัดนิคมสามัคคีชัย หรือวัดบ่อ 6 ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ตรงที่ตั้งเป็นสุสานซึ่งทางวัดได้ออกโฉนดมาเมื่อปี 2554 และต้องการที่จะได้พื้นที่คืนเพื่อมาสร้างเสนาสนะสถานต่างๆ แต่ทางวัดยินดีที่จะให้ทางมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ดูแลในพื้นที่แต่ต้องมีการทำข้อตกลงกันให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีการตกลงกันแต่อย่างใด ทางวัดจึงอาศัยอำนาจในฐานะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดทำการล้อมรั้วดังกล่าว

ในขณะเดียวกัน นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้เดินทางไปวัดนิคมสามัคคีชัย หรือวัดบ่อ 6 และกล่าวว่า ตนจะเป็นคนกลางนำข้อมูลความเดือดร้อนรวมทั้งเหตุผลของทั้งสองฝ่ายนำมาประสานกัน ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างประสานกับทางวัดเพื่อจะได้นำข้อมูลไปประสานต่อกับทางมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์เป็นการไกล่เกลี่ยต่อไป



ที่มา : MgrOnline