เร่งล่าแก๊งชายฉกรรจ์ บุกออฟฟิศย่านรัชดาอุ้ม 2 นักธุรกิจจีนรีดเงิน 4 ล้าน

เผยแพร่ : 21 ต.ค. 2567 12:19:36
X
• คนร้าย 5 คน บุกออฟฟิศ ย่านถนนรัชดาฯ
• เป็นชายฉกรรจ์
• อุ้มนักธุรกิจชาวจีน 2 คน
• รีดเงินค่าไถ่ 4 ล้านบาท
• ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้าย

ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายชายฉกรรจ์ 5 คนพร้อมอาวุธครบมือ บุกออฟฟิศย่านถนนรัชดาภิเษก อุ้ม 2 นักธุรกิจชาวจีน รีดเงิน 4 ล้านบาท

จากกรณีเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 22.00 น. สองผู้เสียหายชาวจีน เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.สุทธิสาร หลังถูกกลุ่มคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 5 คน พร้อมอาวุธปืนสั้นและปืนยาวครบมือ บุกเข้าไปในที่ทำงานย่านถนนรัชดาภิเษก อุ้มไปบังคับเอาเงินสกุลไทยและสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ มูลค่ารวม 4 ล้านบาท

โดยผู้เสียหายชาวจีนระบุว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา มีชายฉกรรจ์เป็นชาวจีน 2 คน และเมียนมา 3 คนพร้อมอาวุธปืน บุกเข้ามาที่ทำงาน และขู่รีดไถเงินเป็นภาษาจีน โดยผู้เสียหายยอมให้เงินสดไป 3.2 ล้านบาท แต่กลุ่มคนร้ายยังขู่บังคับผู้เสียหายทั้ง 2 คน และพาขึ้นรถยนต์มุ่งหน้าไปที่จังหวัดนครนายก และขู่รีดไถเงินอีก 6 แสนดอลลาร์สหรัฐ แต่ผู้เสียหายไม่มีเงิน จึงต้องขอยืมญาติชาวจีนให้โอนเงินมาให้คนร้ายไป 270,000 ดอลลาร์สหรัฐ คนร้ายจึงยอมพาผู้เสียหายกลับมาปล่อยไว้ย่านบางเขน ของวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมาและได้ยึดโทรศัพท์มือถือมาทำลายซิมการ์ดทิ้ง ก่อนจะคืนโทรศัพท์มือถือให้ผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงได้ไปซื้อซิมการ์ดใหม่ที่ร้านสะดวกซื้อนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (21 ต.ค.) ที่ สน.สุทธิสาร พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผกก.สน.สุทธิสาร เปิดเผยว่า ผู้เสียหายทำธุรกิจเป็นนายหน้าจัดสรรหาที่พักให้แก่ชาวจีนที่มาเมืองไทย มีการจดทะเบียนบริษัทถูกต้องตามกฎหมาย โดยในวันเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากบุคคลหนึ่ง ที่เคยติดต่อขอแลกเงินดิจิทัลกันมาก่อน ที่จะขอแลกเงินดิจิทัลคริปโตเคอเรนซี่ โดยให้เตรียมเงินสดไทยไว้จำนวน 3 ล้านบาท หลังจากนั้นไม่นานมีกลุ่มคนร้าย 5 คน เข้ามาภายในออฟฟิศ พร้อมอาวุธครบมือ ทำทีเป็นเข้ามาถามถึงคนชื่อ “ไมเคิล” ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียหาย จากนั้นได้เข้าไปรื้อค้นเงินเอาเงิน แล้วพากลุ่มผู้เสียหายรวม 2 คน ที่เป็นชาวจีนแต่พูดไทยได้ ไปยังจังหวัดนครนายก โดยการนำตัวไปมีการแยกผู้เสียหายออกขึ้นรถ 2 คัน พร้อมรีดเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐไปอีก 270,000 ดอลลาร์สหรัฐจากนั้นได้นำตัวผู้เสียหายทั้งสอง ขึ้นรถคันเดียวมาส่งที่บริเวณย่านบางเขนในวันต่อมา

พ.ต.อ.พรเทพ เปิดเผยอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.สุทธิสาร ร่วมกับกก.สส.บก. 2 และ ตม. ได้ทำการตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ของผู้ก่อเหตุพบว่า เป็นการใช้ทะเบียนปลอม และได้ทำการสอบสวนผู้เสียหายเสร็จสิ้น เมื่อเวลา 03.00 น. วันนี้ ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชาวเมียนมาร่วมด้วยหรือไม่ เนื่องจากการสื่อสารพบว่า เป็นคนจีน ส่วนบุคคลที่ชื่อ “ไมเคิล” ขณะนี้ได้ประสานกับ ตม.เพื่อตรวจสอบว่า บุคคลที่เข้ามาในราชอาณาจักรถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แต่ยืนยันว่ามีตัวตน

โดยเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกับทาง ตม. เพื่อไล่เรียงพฤติกรรมการก่อเหตุทั้งหมด ยืนยันว่า ผู้เสียหายเข้าเมืองไทยมาโดยถูกต้องและทำธุรกิจถูกกฎหมาย โดยจากการสอบสวนเบื้องต้นผู้เสียหายสงสัยว่า น่าจะเชื่อมโยงกับตัวอดีตภรรยาที่ได้เลิกรากันไป โดยมีลูกด้วยกัน ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยรายนี้ยังอยู่ในเมืองไทย แต่ในเบื้องต้นยังเป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน ส่วนการติดตามตัวคนร้ายขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ไล่ตรวจสอบเส้นทางการก่อเหตุ และเชื่อว่าขณะนี้ผู้ต้องหายังคงอยู่ในประเทศไทย แต่การติดตามมีความยากลำบาก เพราะเนื่องจากผู้ต้องหาได้ทำการแยกย้ายรถออกไปคนละคันและหลบหนี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงให้การดูแลผู้เสียหายทั้งสองคน เนื่องจากทั้งคู่ยังอยู่ในความหวาดกลัวอันตราย

ที่มา : MgrOnline