“ม.ล.เพ็ทรา” เจน 3 แห่ง “มณียา กรุ๊ป” ผู้ปลุกธุรกิจพันล้านให้ผงาดอีกครั้ง

เผยแพร่ : 21 ต.ค. 2567 12:38:59
X
• เพ็ท-ม.ล.เพ็ทรา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ ทายาทคนเล็กของ ม.ร.ว.ทินศักดิ์ ศักดิเดชภาณุพันธ์ แห่งมณียา กรุ๊ป และคุณป๋ำ-ศิริกาญจน์ ศักดิเดชภาณุพันธ์ ณ อยุธยา ไม่ได้เรียนจบสายตรงทางด้านบริหารธุรกิจ
• เพ็ทได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานในบริษัทของครอบครัว
• เพ็ทไม่ยอมแตกแถวจากการทำงานในมณียา กรุ๊ป แม้ไม่ได้เรียนจบสายตรง

ถึงจะไม่ได้เรียนจบสายตรงมาทางด้านบริหารธุรกิจ แต่เพ็ท-ม.ล.เพ็ทรา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ ทายาทคนเล็กของ ม.ร.ว.ทินศักดิ์ ศักดิเดชภาณุพันธ์ แห่งมณียา กรุ๊ป และคุณป๋ำ-ศิริกาญจน์ ศักดิเดชภาณุพันธ์ ณ อยุธยา ก็ไม่ยอมแตกแถว หลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานอยู่นอกบ้านจนอิ่มตัว ก็พร้อมนำความรู้และประสบการณ์ที่มีมาเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการต่อยอดอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ย่านราชประสงค์ของครอบครัว พร้อมปลุกปั้นธุรกิจส่วนตัวที่เกิดจากแพชชั่นอย่าง Pink Bar Juicery แต่แม้จะนั่งแท่นผู้บริหารเต็มตัว เพ็ทก็ยังไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ตอนนี้กำลังเต็มที่กับการติดอาวุธเรื่องบัญชีและการเงิน ซึ่งเจ้าตัวมองว่าเป็นหัวใจสำคัญกับการทำธุรกิจ

ก่อนจะเข้ามารับหน้าที่ Executive Director ของ มณียา กรุ๊ปเพ็ทเรียนจบด้าน Communication and Journalism จาก University of Southern California สหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นก็ไปทำงานด้านการตลาดที่ AIS อยู่ 3 ปี เพราะตั้งใจไปเรียนรู้ระบบงานต่างๆ รวมทั้งฝึกการทำงานเป็นทีม จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน จึงกลับมาช่วยบริหารธุรกิจครอบครัว ที่ทำด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีทั้งธุรกิจออฟฟิศให้เช่า อย่างตึกมณียาเซ็นเตอร์และมณียานอร์ธ, ธุรกิจโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ และคอนโดมิเนียม M Estate Residences

“ด้วยความที่เรียนมาสายนิเทศ เพ็ทเลยเข้ามาช่วยดูภาพรวมด้านการตลาด​ ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์, แบรนด์ดิง และการวาง Brand Positioningวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางการตลาดของแต่ละโปรเจกต์ ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้ธุรกิจเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง และเติบโตอย่างยั่งยืน พอเข้ามาทำงานจริงๆ ต้องบอกว่ายากและเครียดคนละแบบกับตอนที่ทำงานข้างนอก เพราะตอนเป็นลูกจ้าง เราก็อาจจะทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย แต่พอมาทำธุรกิจครอบครัว กลายเป็นว่าเราต้องเปิดสวิตซ์ตลอดว่าอะไรที่เราควรจะต้องทำเพิ่มเติม หรืออุดช่องโหว่​ แก้ Pain Point ตรงไหนของธุรกิจ”

อีกหนึ่งความยากในการเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัวของเพ็ท คือ พอเป็นธุรกิจอสังหาฯ ที่มีทั้งสำนักงานให้เช่า โรงแรม และคอนโดฯ แต่ละธุรกิจจะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะให้เรียนรู้และศึกษา

“เพ็ทโชคดีที่มีครอบครัวคอยซัพพอร์ต อย่าง คุณพ่อท่านวางรากฐานธุรกิจไว้ดี ทำให้การทำงานราบรื่น ขณะที่ คุณแม่เป็น Role Model ของผู้หญิงเก่ง และทำงานละเอียด ส่วนพี่สาว (ปอ ศีกัญญา) และพี่ชาย (แพทริค ม.ล. ศรุศักดิ์) ก็พร้อมให้คำแนะนำในการทำธุรกิจและการทำพีอาร์ รวมถึงการตัดสินใจที่เด็ดขาด ซึ่งเพ็ทเองอาศัยซึมซับจุดแข็งของแต่ละคนแล้วมาเบลนด์เข้ากับสไตล์ของตัวเอง”

อย่างไรก็ตาม แม้จะเรียนจบมาไม่ตรงสาย แต่ความรู้ด้านนิเทศศาสตร์และความชอบด้านดีไซน์ที่มี ก็สามารถนำมาช่วยต่อยอดในการทำการตลาด รวมถึงเป็นกำลังสำคัญในการรีโนเวทตึกออฟฟิศมณียา​ ที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 50 ปี และโรงแรมเรเนซองส์ที่เปิดมากว่า 10 ปีได้ไม่น้อย

“เพ็ทก็มองว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องรีโนเวทอาคารให้มีความทันสมัย เนื่องจากถ้าไปสำรวจตึกในละแวกใกล้เคียงในบริเวณ CBD นี้จะพบว่ามีการพัฒนาเรื่อยๆ ดังนั้นการรีโนเวท ไม่เพียงเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวอาคาร และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่ผู้เช่าเดิม ที่อยู่กับเรามายาวนาน​ รวมไปถึงสร้างแรงดึงดูดให้ผู้เช่ารายใหม่ เลยเป็นที่มาของการรีโนเวทสำนักงานให้เช่าและโรงแรมเมื่อปีที่แล้ว”

นอกจากนี้ในอนาคต เพ็ทยังมีโปรเจกต์ ‘Maneeya Green Space’ ที่จะทำให้ตึกมีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น และเป็นตึกที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ด้วยการรณรงค์ให้มีการลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และการแยกขยะอีกด้วย

มาถึงสไตล์ในการทำงานของผู้บริหารสาวกันบ้าง เพ็ทบอกว่า เธอให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว พนักงาน เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า Supplier และ Vender เพราะเชื่อว่าการเป็นผู้ฟังที่ดี ยอมรับความคิดเห็นและความแตกต่างของคนอื่น จะทำให้ได้เห็นถึงมุมมองที่หลากหลาย​ และบางครั้งอาจจะเป็นมุมมองที่ที่คาดไม่ถึง เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ และนำไปปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างละเอียดรอบคอบ


นอกจากนี้ ด้วยความที่อยู่ในธุรกิจโรงแรมและสำนักงานให้เช่า​ เพ็ทจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของ Service Mind โดยเธอมักสวมบทของลูกค้าในการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของสถานที่และการให้บริการอยู่เสมอ เพราะเชื่อว่าการส่งมอบบริการที่ดี เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและพึงพอใจ จะนำไปสู่การสร้าง Brand Loyalty

นอกจากเพ็ทจะยังสนุกกับการเรียนรู้โลกธุรกิจที่มีอสังหาฯ เป็นแกน ด้วยแรงบันดาลใจที่อยากจะให้บริเวณตึกมณียา เป็นพื้นที่แห่งความสุข เลยจับเทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจและรักสุขภาพมากขึ้น ด้วยการทำลงขันกับหุ้นส่วนปั้นแบรนด์ “Pink Bar Juicery”ร้านน้ำผลไม้สกัดเย็น ที่ด้านหน้าโรงแรมเรเนซองส์

“จุดเด่นของ Pink Bar Juicery คือ นอกจากเราจะรีเสิร์จและพัฒนาสูตรน้ำผักและผลไม้ให้อร่อย ทานง่าย ไม่ใส่สารกันเสีย ไม่ใส่น้ำตาล ทุกหยดมาจากผักและผลไม้ล้วนๆ เรายังตั้งใจสนับสนุนเกษตรกร ชุมชน ด้วยการรับซื้อวัตถุดิบบางอย่าง เช่นขิง beetroot สับปะรดจากร้านที่รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรงอีกด้วย”

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีทั้งธุรกิจหลักและธุรกิจเสริม แต่เพ็ทยังแบ่งเวลาสำหรับกิจกรรมโปรดอย่างการออกกำลังกาย และอ่านหนังสือ

“เพ็ทชอบการออกกำลังกาย นอกเหนือจาก Pilates สัปดาห์ละ2 วัน และต่อยมวยอีกสัปดาห์ละครั้ง เพ็ทยังชอบวิ่ง บางครั้งก็วิ่งรอบหมู่บ้าน และวิ่งเล่นกับน้องหมาที่เลี้ยงไว้ 2 ตัว เป็นน้องหมาพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด ซึ่งเป็นน้องหมาพันธุ์ใหญ่ ที่พร้อมปกป้องเจ้าของอยู่เสมอ สำหรับเพ็ทเขาคือแหล่งพลังงานความสุข เวลาเหนื่อยล้าจากการทำงาน แค่ได้กอดเขา ก็เหมือนได้พลังบวก ส่วนการออกกำลัง เป็นเหมือนกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะเวลาที่ออกกำลังกายเราต้องโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้มีสมาธิ ไม่คิดถึงเรื่องอื่น”

อีกหนึ่งงานอดิเรกที่เพ็ทชอบ คือ การอ่านหนังสือ ส่วนใหญ่จะชอบแนวพัฒนาตนเอง ปรับเปลี่ยนมุมมอง Mindset และเติมแรงบันดาลใจ

สำหรับเป้าหมายในอนาคต เพ็ทบอกว่า ในด้านธุรกิจเธออยากเห็นมณียากรุ๊ป เติบโตอย่างยั่งยืน สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกยุค​ ไม่ว่าเจนไหน กลุ่มไหนมาที่เราแล้วรู้สึกเติมเต็ม อยากสร้าง Brand Loyalty ที่ทำให้ลูกค้านึกถึง นอกเหนือจากโลเคชั่นที่โดดเด่น ยังเป็น Timeless Real Estate ที่มีความร่วมสมัย ไม่ได้ก้าวเร็วไปหรือล่าช้าไป แต่ปรับตัวไปตามยุคสมัย พร้อมตอบโจทย์ทุกเจน

“ส่วนตัวเพ็ทเอง ตอนนี้จริงจังมากกับการเรียนเรื่องบัญชีและการเงิน เพราะมองว่าหนึ่งในหัวใจของการทำธุรกิจในฐานะผู้บริหาร เรา ต้องเข้าใจเรื่องบัญชีและการเงิน สามารถอ่านผลประกอบการ วิเคราะห์งบประมาณการเงิน รายรับ รายจ่าย กำไร ขาดทุน ภาษีต่าง ๆ เพื่อช่วยให้วางกลยุทธ์ต่าง ๆได้ดีขึ้น ยกตัวอย่าง สมมติเพ็ทมีโปรเจกต์ที่อยากทำ แต่ถ้าไม่ดูตัวเลข หรือไม่รู้สถานะของบริษัทเลย สุดท้ายก็จะเป็นแค่ไอเดียฟุ้งๆ ที่ทำได้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือต่อให้ทำได้จริง ก็ไม่รู้ต้องรอปีนี้ ปีหน้า หรือต้องรออีกกี่ปี​ ที่สำคัญทำแล้วสุดท้ายผลตอบรับจะกลับมาแบบคุ้มค่าหรือไม่ เพ็ทเลยจริงจังและอยากเพิ่มเติมความรู้ตรงนี้”

ปิดท้ายด้วยมุมมองการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล เพ็ทมองว่า ต้องเปิดรับและเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกสมัยใหม่ พร้อมปรับตัว มีความยืดหยุ่น ในการรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ที่สำคัญ คือ สามารถนำสิ่งที่มีอยู่มาสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ ต่อยอดไอเดียให้มีความหลากหลายและนำไปสู่ผลลัพธ์ในการทำงานที่ดีขึ้น

ที่มา : MgrOnline