## ข่าวสำคัญจากเนื้อหา: 1. **พบศพหญิงสาวอายุประมาณ 40 ปี ถูกฆาตกรรม** ในไร่มันสำปะหลัง เมืองอุทัยธานี 2. **ศพสวมกางเกงยีนส์ขาสั้น ถูกมัดข้อมือและรัดคอด้วยเชือกสีแดง** ขาถูกมัดด้วยเชือกเช่นกัน และถูกห่อด้วยผ้าสีชมพู 3. **ตำรวจกำลังแกะรอยรถตู้สีขาวต้องสงสัย** ที่อาจเกี่ยวข้องกับคดี 4. **พบว่าผู้ตายพักที่รีสอร์ตไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ** ก่อนพบศพ
อุทัยธานี - ตำรวจเปิดวงจรปิดแกะรอยล่า..รถตู้ขาวต้องสงสัยขนศพสาวปริศนาวัย 40 สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น ถูกเชือกสีแดงมัดข้อมือโยงรัดคอ-ขา ห่อผ้าสีชมพูคลุม หมกไร่มันสำปะหลังลานสัก เมืองอุทัย พบเข้าพักรีสอร์ตไม่ไกลที่เกิดเหตุ

ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ได้รับแจ้งพบศพหญิงสาวถูกฆาตกรรมก่อนนำศพไปทิ้งไว้ในป่ามันสำปะหลังข้างทาง ในพื้นที่หมู่ 5 ต.ลานสัก อ.ลานสัก เมื่อเย็นวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา เมื่อไปตรวจสอบก็พบศพเป็นหญิง อายุประมาณ 40 ปี สภาพถูกเชือกสีแดงมัดข้อมือทั้งสองข้างโยงมาถึงบริเวณลำคอ ลำตัว และขาทั้งสองข้าง ผู้ตายสวมกางเกงยีนส์ขาสั้น มีผ้าห่มสีชมพูคลุมร่างอยู่

จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงให้ข้อมูลว่า ช่วงเย็นวันดังกล่าวเห็นรถตู้สีขาวสภาพใหม่ขับผ่านหน้าบ้าน ก่อนเลี้ยวขวาเข้าไปในซอยริมถนนลูกรังข้างป่ามันสำปะหลัง ก่อนมีผู้หญิง 1 คน รูปร่างอวบ ผิวขาว ใส่กางเกงขาสั้น เดินลงมาจากรถพร้อมผู้ชาย และพากันเดินเข้าไปที่ไร่มันสำปะหลังจุดเกิดเหตุ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียด พร้อมเร่งสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐาน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหารถตู้มาตรวจสอบ พร้อมประกาศแจ้งไปยังประชาชนว่าหากใครมีญาติหายและมีรูปพรรณใกล้เคียงกับผู้เสียชีวิต สามารถติดต่อตำรวจ สภ.ลานสักได้ทันที

ล่าสุดเช้าวันนี้ (21 ต.ค.) ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ลานสัก ได้ภาพกล้องวงจรปิดที่คาดว่าจะเป็นรถของคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งพบว่าได้มาเปิดห้องพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอลานสัก ซึ่งไม่ไกลจากจุดที่เกิดเหตุ ก่อนออกเดินทางจากรีสอร์ตไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ด้าน นายสมาน คงห้วยรอบ อายุ 65 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ที่ขับรถผ่านตอนที่รถตู้มาจอดจุดเกิดเหตุ ซึ่งวันนี้เดินทางมาให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.ลานสัก เปิดเผยว่า วันนั้นตนขับรถผ่านตรงจุดที่รถตู้คันดังกล่าวจอดอยู่พอดี แต่ก็ไม่ได้เอะใจหรือสนใจเพราะคิดว่ามีคนมาตกปลา หรือต่อนกเพราะใกล้ๆ กันมีสระน้ำอยู่ด้วย ซึ่งไม่คาดคิดว่าจะมีคนมาก่อเหตุอะไรแบบนี้ และคาดว่าผู้ตายไม่น่าจะเป็นคนในพื้นที่ น่าจะเป็นการนำศพมาทิ้งมากกว่า


ที่มา : MgrOnline