## ข้อสรุปสำคัญจากข่าว: * **โอ เซฮุน** นายกเทศมนตรีกรุงโซล เสนอให้เกาหลีใต้พิจารณา **พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์** เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ * นี่เป็นการแสดงความคิดเห็น **ครั้งแรก** จากผู้นำระดับสูงของเกาหลีใต้ ที่เรียกร้องให้มีเครื่องป้อมปรามทางนิวเคลียร์ * ความคิดเห็นของโอ เซฮุน สะท้อนให้เห็นถึงความ **กังวล** ของประชาชนเกาหลีใต้ต่อภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่เพิ่มขึ้น * การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เป็นประเด็นที่ **ละเอียดอ่อน** และอาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค
เกาหลีใต้จำเป็นต้องมีเครื่องป้อมปรามทางนิวเคลียร์ เพื่อสกัดภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ประเทศเพื่อนบ้าน จากความเห็นของโอ เซฮุน นายกเทศมนตรีกรุงโซล เมื่อช่วงปลายสัปดาห์

ในข้อความที่โพสต์บนเฟซบุ๊กในวันศุกร์ (18 ต.ค.) โอ ประณามในสิ่้งที่เขาเรียกว่า "คำขู่ที่เกินจะทน" ที่มีต่อเมืองของเขา อ้างถึงความเห็นต่างๆ ของคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่เมื่อเร็วๆ นี้เรียกเกาหลีใต้ว่าเป็น "ประเทศศัตรู"

ภาพที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) เมื่อไม่นานที่ผ่านมา เป็นภาพของ คิม จองอึน กำลังหารือกับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูง ชี้ไม้ชี้มือไปยังแผนที่ประเทศเกาหลีใต้

นายกเทศมนตรีกรุงโซล บอกว่าเขารู้สึกโกรธเคืองและผิดหวัง ที่เห็นเปียงยางข่มขู่เล่นงานเมืองของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในขณะที่เมืองหลวงของเกาหลีใต้แห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนเพียงแค่ราว 50 กิโลเมตร

"เกาหลีเหนือส่งบอลลูนบรรทุกขยะลอยข้ามชายแดน ก่อความเสียหายแก่ทรัพย์สินและกระพือไฟไหม้ในหลายจุด เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาถึงขั้นระดมโจมตีในพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ตรงหน้าเขตปลอดทหารและชายฝั่งทางตะวันออก" เขากล่าว

โอ เซฮุน กล่าวต่อว่า เกาหลีเหนืออาจหาญกระทำการอย่างหน้าด้านๆ และยั่วยุ เพราะพวกเขาครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ แต่เกาหลีใต้ไม่มี ด้วยเหตุนี้มันจึงเกิดในสิ่งที่เขาเรียกว่า "สถานการณ์ที่ไม่ทัดเทียมกัน"

"นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องเพิ่มศักยภาพป้องปรามทางนิวเคลียร์อย่างเร่งด่วน ไม่มีหนทางอื่นในการบรรลุเป้าหมายแห่งสันติภาพ ยกเว้นแต่การยกระดับความเข้มแข็งของการป้องกันประเทศ" เขากล่าว

นายกเทศมนตรีกรุงโซล กลายเป็นหนึ่งในบรรดานักการเมืองคนดังเกาหลีใต้ที่ออกมาส่งเสียงสนับสนุนให้โซลมีคลังแสงนิวเคลียร์ในครอบครอง อย่างไรก็ตาม ทางประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล บอกว่าประเทศของเขาไม่ได้หาทางสร้างอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง เน้นย้ำคำสัญญาที่เคยรับปากว่าจะเพิ่มความพยายามอีกเท่าตัวในการเสริมสร้างยุทธศาสตร์ป้องปรามทางนิวเคลียร์ร่วมกับสหรัฐฯ ซึ่งมอบร่มนิวเคลียร์ปกป้องเกาหลีใต้ มาตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1950

ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีพุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเปียงยางขู่แก้แค้น ในสิ่งที่พวกเขากล่าวหาว่าโซลส่งโดรนทหารล่วงล้ำชายแดนและตกลงในดินแดนของพวกเขา

เกาหลีเหนือทำการระเบิดถนนและเส้นทางเดินรถไฟตามแนวชายแดน ในส่วนหนึ่งของปฏิบัติการแยกเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ออกจากกันโดยสิ้นเชิง อ้างถึงสถานการณ์ความมั่นคงขั้นเลวร้าย นอกจากเหนือนี้แล้วเปียงยางยังกล่าวหาโซล ส่งบอลลูนข้ามชายแดน กระจายใบปลิวที่เต็มไปด้วยการใส่ร้ายและโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง

ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือประณามซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต่อการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ โดยพวกเขามองว่าการซ้อมรบดังกล่าวเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ในการรุกราน

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)

ที่มา : MgrOnline