## สรุปข่าวประเด็นสำคัญ: * สมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์วัดหนองบอน กว่า 100 คน รวมตัวร้องผู้ว่าฯ ตราด * ขอร้องให้ตรวจสอบการบริหารงานของสมาคมฯ * เนื่องจากมีข้อกังวลเรื่องการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส * ส่อไปในทางทุจริต จนสร้างความเสียหายหลายล้านบาท
ตราด - สมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์วัดหนองบอน กว่า 100 คนรวมตัวยื่นหนังสือร้องผู้ว่าฯ ตราด ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการบริหารงานของสมาคมที่ไม่มีความโปร่งใส และส่อไปในทางทุจริตจนสร้างความเสียหายหลายล้านบาท

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (18 ต.ค.) นายพีระ รักษาทรัพย์ ทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์วัดหนองบอน พร้อมสมาชิกกว่า 100 คน ที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารงานของสมาคมภายใต้การนำของ นายสมยศ ปิ่นงาน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ณ ห้องประชุมยุทธนาวีเกาะช้าง ศาลากลางจังหวัดตราด เพื่อขอให้ตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการเกิดความเสียหาย

และยังได้ร่วมประชุมกับ นายพีระ เอี่ยมสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด และนายเอกลักษณ์ ศิริวัฒนาวงศ์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหมาย รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง พ.ต.ท.สมศักดิ์ ผลกระโทก สารวัตรใหญ่ สภ.หนองบอน

 นายสมยศ ปิ่นงาน เผยถึงสาเหตุที่ต้องเดินทางมาพบผู้ว่าราชการจังหวัดเพราะพบการบริหารงานของสมาคมที่ไม่โปร่งใส และส่อไปในทางทุจริต รวมทั้งยังสร้างความเสียหายให้สมาคม และสมาชิก มูลค่ารวมหลายล้านบาท

“ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา พบว่ามีข้อบกพร่องเกี่ยวกับการเงินหรือการบัญชี ซึ่งคณะกรรมการสมาคมพยายามที่จะชี้แจงและทำความเข้าใจกับสมาชิกว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดมาจากเจ้าหน้าที่เพียงรายเดียวที่มีหน้าที่เป็นผู้เก็บเงินสงเคราะห์ แต่กลับไม่สามารถทำให้เกิดความชัดเจน และสรุปวิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างจริงจัง”

ด้าน พ.ต.ท.สมศักดิ์ ผลกระโทก สารวัตรใหญ่ สภ.หนองบอน เผยว่า ก่อนหน้านี้ นายปกรณ์ ราชนิยม อุปนายกสมาคมได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีนางวิภารัตน์ กุระธารสายชล ซึ่งมีพฤติกรรมสวมสิทธิคนตายกว่า 10 รายเพื่อเบิกเงินจากสมาคม จำนวนกว่า 4 แสนกว่าบาท และเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ยังได้มีการนำรายชื่อมาเพิ่มอีก 123 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างทำการสอบสวน และจากเดิมที่มีผู้เสียหายประมาณ 10 ราย เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 100 รายในปัจจุบัน

“พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพื่อตรวจสอบการเสียชีวิตเพื่อนำมาเป็นหลักฐาน ซึ่งที่ผ่านมาได้สอบสวนพยาน และผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้ผู้ต้องหามาให้ปากคำส่วนหนึ่งแล้ว และจะพยายามหาพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้างหรือไม่ ซึ่งในเบี้องต้นมีการสรุปตัวเลขการกระทำผิดของผู้ต้องหาแล้วรวม 123 ครั้ง” สารวัตรใหญ่ สภ.หนองบอน กล่าว

ขณะที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เผยว่าผู้ว่าราชการจังหวัด และตนพร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของทางจังหวัดที่จะมีอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดี ร่วมสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.หนองบอน เพื่อให้การดำเนินการรวดเร็วขึ้น





ที่มา : MgrOnline