## สรุปข่าวประเด็นสำคัญ * ตำรวจชุมพรจับกุมรถตู้ทึบ 2 คันขนแรงงานโรฮิงญา * คนขับทั้ง 2 คัน ถูกจับกุม * พบผู้เสียชีวิต 3 ศพ ภายในรถ สาเหตุการเสียชีวิตคือขาดอากาศหายใจ * ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 10 คน * พบผู้รอดชีวิตอีก 16 คน หลบซ่อนอยู่ในป่า * คาดว่ามีแรงงานโรฮิงญาที่รอข้ามแดนอีกกว่า 300 คน
ชุมพร - ตร.สนธิกำลังตามจับรถตู้ทึบ 2 คัน พร้อมคนขับ ลักลอบขนแรงงานโรฮิงญา อัดแน่นจนขาดอากาศหายใจ พาทิ้งป่าละเมาะ ดับ 3 ศพ อาการสาหัส 10 คน ส่วนอีก 16 คน พบหลบซ่อนในป่า ยังมีอีกกว่า 300 คน พักรอข้ามแดน

จากกรณีมีพระสงฆ์ วัดเสกขาราม พบชาวโรฮิงญา จำนวน 26 คน ถูกแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ลักลอบขนมากับรถกระบะตู้ทึบ แต่ระหว่างทางขาดอากาศหายใจ มีอาการอ่อนเพลีย ชักดิ้นชักงอ ทุรนทุราย ใกล้ตาย คนขับได้นำชาวโรงฮิงญาทั้งหมดเข้าไปทิ้งนอนรอความตายในป่าละเมาะ ข้างเชิงเขาวัดเสกขาราม ริมถนนสายแหลมทราย หมู่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ห่างจากถนนเพชรเกษมประมาณ 2 กิโลเมตร

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบชาวโรงฮิงญาตายเพราะขาดอากาศหายใจในที่เกิดเหตุ 2 ศพ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ศพ รวมเป็น 3 ศพ และมีอาการโคม่าอีก 7 คน ส่วนอีก 16 คน หลบซ่อนในป่า เหตุเกิดเมื่อตอนสายของ วันที่ 17 ต.ค.67 ตามข่าวที่เสนอนั้น

สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันนี้ (18 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน จากกล้องวงจรปิด ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหัดหลังสวน เพื่อจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย โดยสามารถติดตามจับกุมแก๊งขนแรงงานต่างด้าวชาวโรฮิงญา ได้จำนวน 2 คน คือ นายพิทักษ์ ธาราณะกลาง อายุ 30 ปี ชาว จ.ราชบุรี คนขับรถขนชาวโรฮิงญา และ นายเสกสรร กระเสาร์ อายุ 21 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ คนขับรถนำทาง พร้อมรถยนต์กระบะตู้ทึบ 2 คัน

เป็นรถยนต์กระบะตู้ทึบอีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน บฉ 8451 สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นรถบรรทุกชาวโรฮิงญา และรถยนต์กระบะตู้ทึบ อีซูซุ สีเทา ทะเบียน บบ 7903 หนองคาย เป็นรถนำทาง ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 1 คน โดยจับกุมได้บนถนนเพชรเกษม กม.ที่ 186 ขาขึ้น พื้นที่ ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้เมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมกับควบคุมตัวทั้ง 2 คน และ รถยนต์ของกลางดำเนินคดีในท้องที่เกิดเหตุ

ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น.วันเดียวกัน ที่สถานีตำรวจภูธรหลังสวน พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รอง ผบช.ภ.8 พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.นิรันทร์ กันจู รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน พร้อมด้วยชุดสายสืบท้องที่ ชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร และภาค 8 ได้ร่วมกันสอบปากผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เพื่อขยายผลขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติ และสอบปากคำชาวโรฮิงญาที่ได้รับการช่วยเหลือ จนปลอดภัยจำนวน 16 คน เพิ่มเติม ส่วนชาวโรฮิงญาที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจำนวน 7 คน ยังมีอาการโคม่า 1 คน อีก 6 คน อาการดีขึ้นและพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ทราบว่าแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ข้ามชาติมีการทำกันเป็นขบวนการใหญ่ เริ่มตั้งแต่นำชาวต่างด้าว ทั้งหมดมาจากรัฐยะไข่ เดินทางไปเมืองย่างกุ้ง และเมืองละเมง แล้วเดินทางต่อไปอาศัยอยู่ที่โกดังแห่งหนึ่งที่เมืองเมียวดี ประเทศพม่า จากนั้นจะมีทหารจากกองกำลังพิทักษ์ชายแดนของชนกลุ่มน้อย ที่ขึ้นตรงกับทหารพม่า นำขึ้นรถยนต์ทหารไปส่งใกล้ชายแดนด้านอำเภอแม่สอด จ.ตาก โดยเดินทางจากจุดเริ่มต้นมายังปลายทางที่ชายแดนแม่สอด เป็นเวลานานเกือบ 1 เดือน ซึ่งยังมีชาวต่างด้าวรอลักลอบข้ามฝั่งมาประเทศไทยอีกมากกว่า 300 คน

สำหรับชาวต่างด้าวทั้งหมดจะเสียค่าใช้จ่ายหัวละ 10 ล้านจ๊าต แบ่งจ่ายเป็น 2 ก้อน โดยก้อนแรกจ่าย 5 ล้านจ๊าต เมื่อส่งชาวพม่าถึงชายแดนไทย-มาเลเซีย ชายแดนใต้ ญาติจะจ่ายให้อีก 5 ล้านจ๊าต รวมเป็นเงินไทยทั้งหมดประมาณ 150,000 บาท

เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหาแก๊งขนชาวต่างด้าวที่ถูกจับกุมได้ทั้ง 2 คน ในข้อหาลักลอบนำต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง และข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา และปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา : MgrOnline