## ข่าวสรุป: * **เหยื่อรายใหม่ The Icon Group:** คุณยายวัย 61 ปี ในเมืองพัทยา รวมถึงลูกสาวที่เป็นออทิสติก ตกเป็นเหยื่อของ The Icon Group * **เสียเงินสมัครดีลเลอร์:** คุณยายเสียเงินกว่า 2 แสนบาทเพื่อสมัครเป็นดีลเลอร์หวังได้เงินปันผลเลี้ยงลูก * **ไม่ได้รับผลตอบแทน:** คุณยายไม่สามารถขายสินค้าได้ตามที่คาดหวัง * **แม่ทีมบังคับหาลูกข่าย:** แม่ทีมบังคับให้คุณยายหาลูกข่ายเพิ่ม * **ปัญหาเวรกรรม:** เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงปัญหาการหลอกลวงของ The Icon Group
ศูนย์ข่าวศรีราชา - โผล่อีกเหยื่อ The Icon Group ป้าวัย 61 ปีในเมืองพัทยาจูงมือลูกสาวป่วยออทิสติก เข้าแจ้งความตำรวจเผยเสียเงินกว่า 2 แสนสมัครดีลเลอร์หวังได้เงินปันผลเลี้ยงลูก สุดท้ายของขายไม่ได้ ซ้ำแม่ทีมให้หาลูกข่ายเพิ่ม ชี้เวรกรรมติดจรวด บอสพอล สมควรได้รับผล

จากกรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 (บช.ภาค) จัดตั้งศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ในคดี The Icon Group เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับแจ้งความของผู้เสียหายที่อยู่ต่างจังหวัดหลังพบว่ามีการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้างนั้น

วันนี้ (18 ต.ค.) ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พบว่ามีผู้เสียหายในคดี The Icon Group เข้าแจ้งความร้องทุกข์จนนำสู่การสอบปากคำแล้วมากกว่า 20 ราย และพนักงานสอบสวนได้รวบรวมสำนวนส่งมอบให้กองบัญชาการสอบสวนกลาง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว

นอกจากนั้น ยังพบ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 61 ปี อาชีพแม่บ้าน 1 ในเหยื่อ The Icon Group ซึ่งจูงมือลูกสาวป่วยออทิสติกเข้าแจ้งความตำรวจพร้อมเล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตนได้เห็นบอสพอล ที่ได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตจากเด็กยากจนสู่เส้นทางมหาเศรษฐี ด้วยธุรกิจขายของออนไลน์ในรายการโทรทัศน์ของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง และยังพูดถึงการเปิดรับสมัครคอร์สออนไลน์ 97 บาท

ด้วยความที่มีอายุมากและอยากมีธุรกิจส่วนตัว จึงโทรศัพท์ไปยังหมายเลขที่ขึ้นโชว์ในรายการทีวีเพื่อคุยรายละเอียด และได้โอนเงินสมัครเรียน ซึ่งทางบริษัทได้ส่งลิงก์เข้ารับอบรมผ่านระบบซูม ซึ่งในคอร์สเรียนได้มีการบอกเล่าเรื่องราวและประวัติชีวิตของบอสแต่ละคนที่เริ่มต้นจากไม่มีอะไร จนสู่ความสำเร็จร่ำรวยด้วยธุรกิจขายของออนไลน์

“จังหวะนั้นจึงได้นำเงินเก็บจำนวนกว่า 200,000 บาท ไปสมัครเป็นดีลเลอร์ขายของ เพราะหวังจะได้เงินปันผลมาเลี้ยงลูกที่ป่วยออทิสติก ซึ่งแม่ทีมเหมือนจะรู้จุดอ่อนว่าเรามีลูกป่วยออทิสติก จึงได้พูดจาหว่านล้อมว่าเงินปันผลที่ได้สามารถเลี้ยงลูกได้อย่างสบาย และจะมีรายได้ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนหลักแสนบาท”

แต่สุดท้ายเมื่อทดลองใช้สินค้าที่สั่งซื้อมาจำหน่ายพบว่าคุณภาพไม่ดีจริงอย่างที่โฆษณาจึงไม่กล้านำออกขาย และเมื่อติดต่อกลับไปหาแม่ทีมเพื่อขอคืนสินค้าก็ไม่สามารถทำได้ และยังได้รับคำแนะนำจากแม่ทีมให้หาลูกทีมมาสมัครเพิ่มหัวละ 2,500 บาท เพื่อกินเปอร์เซ็นต์จากการขายของลูกทีมแทน

“หลังเสียรู้คิดที่จะไปร้องเรียนแต่เมื่อคิดได้ว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่อายุมาก และยังต้องเลี้ยงลูกป่วยออทิสติก คงจะไม่มีพลังไปสู้กับกลุ่มนายทุน กระทั่งบอสพอล ตกเป็นข่าวจึงทำให้เชื่อได้ว่าเวรกรรมมีจริงและสมัยนี้มันติดจรวด จึงอยากฝากคำพูดถึง บอสพอล ว่าพวกคุณไม่น่ามาสร้างความหวังให้คนอื่น เพราะที่จริงแล้วมันคือการหลอกลวง” น.ส.บี กล่าว




ที่มา : MgrOnline