## สรุปข่าวประเด็นสำคัญ: SteelSeries ขยายตลาดผลิตภัณฑ์เกมมิ่งสู่ไลฟ์สไตล์ * **SteelSeries ก้าวข้ามตลาดเกมมิ่ง เริ่มทำตลาดผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์** * **เปิดตัวหูฟังไร้สาย (True Wireless) รุ่นแรก Arctis GameBuds Wireless Gaming Earbuds** * **รองรับการเล่นเกมบนเครื่องคอนโซล, พีซี, และมือถือ** * **ออกแบบมาเพื่อทั้งการเล่นเกมและใช้งานในชีวิตประจำวัน**
SteelSeries ขยายตลาดผลิตภัณฑ์เกมมิ่งสู่ไลฟ์สไตล์ ประเดิมทำตลาดหูฟังไร้สาย (True Wirelss) ที่รองรับทั้งการเล่นเกม และใช้งานในชีวิตประจำวันรุ่นแรก Arctis GameBuds Wireless Gaming Earbuds ที่สามารถเชื่อมต่อทั้งเครื่องเกมคอนโซล พีซี และสมาร์ทโฟน ในราคา 6,990 บาท

ชาคริต ศิริกุลประดิษฐ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอินเดียว สตีลซีรีส์ SteelSeries กล่าวถึงกลยุทธ์ของ SteelSeries ในการกลับมาทำตลาดประเทศไทยปีนี้ว่า จะเน้นการสร้างแบรนด์ให้เกิดการรับรู้มากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าภายในงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Thailand Game Show ไปจนถึงงาน Thailand Mobile Expo และ Commart ในปีนี้

“ความตั้งใจของ SteelSeries คือการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค รวมถึงการมีสินค้าที่เจาะเข้าไปถึงไลฟ์สไตล์ในการใช้งานเฉพาะ ซึ่ง SteelSeries จะไม่ทำการแข่งขันด้านราคา แต่เน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมแทน”

ก่อนหน้านี้ ผู้บริโภคจะเริ่มรับรู้แบรนด์ SteelSeries จากการเป็นผู้ผลิตคีย์บอร์ด และเมาส์ ที่เป็นอุปกรณ์เกมมิ่ง ก่อนขยับเข้าสู่ตลาดหูฟังเกมแบบครอบหู ที่มีความโดดเด่นเฉพาะในเรื่องของการปรับพรีเซ็ต หรือปรับแต่งเสียงให้เข้ากับเกมที่เล่น

ล่าสุดได้ขยายสินค้าในกลุ่มหูฟัง เพื่อเข้าไปเจาะตลาดผู้ใช้งานทั่วไปที่มีไลฟ์สไตล์ในการเล่นเกมมือถือ รวมถึงเล่นเกมคอนโซล และพีซีไปพร้อมกัน จากหูฟังไร้สายด้วย Arctis GameBuds Wireless Gaming Earbuds ซึ่งเป็นรุ่นแรกของ SteelSeries

“ข้อมูลจาก GFK ระบุว่า สัดส่วนผู้เล่นเกมในตลาดกว่า 49% จะเป็นกลุ่มผู้เล่นบนสมาร์ทโฟน ตามด้วยเกมคอนโซล และคอมพิวเตอร์ และมีแนวโน้มขยายไปยังกลุ่มมือถือมากยิ่งขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์อย่างหูฟังกลายเป็นตลาดอุปกรณ์เสริมที่ใหญ่ที่สุด เพราะคีย์บอร์ด และเมาส์จะรองรับเฉพาะพีซีเท่านั้น”

ความโดดเด่นของหูฟัง Arctis GameBuds Wireless Gaming Earbuds คือรองรับการใช้งานทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตผ่านบลูทูธ และมีอุปกรณ์เสริม (Dongle) เพื่อใช้ส่งสัญญาณ WiFi 2.4 GHz ร่วมกับเครื่องเล่นเกมคอนโซล หรือซีพี ทำให้กลายเป็นหูฟังที่รองรับการใช้งานที่หลากหลาย

ขณะเดียวกัน เมื่อยังให้ความหน่วงต่ำในการเชื่อมต่อ (Latency) ช่วยให้ได้ยินเสียงในเกมแบบรอบทิศทาง ตอบโจทย์เกมเมอร์ที่ต้องการเล่นเกมให้ชนะ และพร้อมที่จะลงทุนในอุปกรณ์ ในระดับราคาที่เข้าถึงได้ เพราะถูกตั้งราคามาในช่วง 6,990 บาท

นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งเสียงให้เข้ากับแต่ละเกม ซึ่งจะมีการอัปเดตเกมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ตัวหูฟังใช้งานได้ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง กรณีที่ไม่เปิดโหมดตัดเสียงรบกวน รองรับการชาร์จทั้ง USB-C และชาร์จไร้สาย (Qi) สามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อปรับแต่งการใช้งานเฉพาะบุคคลได้

ที่มา : MgrOnline