## สรุปข่าวประเด็นสำคัญเทศกาลออกพรรษาไหลเรือไฟนครพนม: * เทศกาลไหลเรือไฟนครพนมจัดยิ่งใหญ่ * เรือไฟตกแต่งสวยงามตระการตา * นักท่องเที่ยวกว่าแสนคนชมการไหลเรือไฟ * อำเภอโพนสวรรค์ ชนะเลิศประเภทเรือไฟสวยงาม * **(ข้อความต้นฉบับขาดข้อมูลผลการประกวดประเภทอื่นๆ)**
นครพนม-เทศกาลออกพรรษาไหลเรือไฟนครพนมจัดได้ยิ่งใหญ่ เรือไฟแต่ละลำตกแต่งสวยงามตระการตา
นักท่องเที่ยวเรือนแสนนั่งชมการไหลเรือไฟประกวดตลอดแนวตลิ่งน้ำโขงขณะที่ผลประกวดเรือไฟประเภทสวยงามชนะเลิศเป็นเรือไฟของ อ.โพนสวรรค์ ส่วนประเภทความคิดสร้างสรรค์ อันดับ 1เรือไฟ อ.ศรีสงครามคว้าไปครอง ตามด้วยเรือไฟของอ.บ้านแพงและ อ.นาหว้า

                         

เมื่อเวลา 19.00 น.คืนที่ผ่านมา(17ต.ค.) นายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานไหลเรือไฟที่จังหวัดนครพนม ท่ามกลางนักท่องเที่ยวเรือนแสนที่เดินทางมาเที่ยวชมเรือไฟในปีนี้ โดยนายอนุทิน กล่าวว่า มหกรรมไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม เป็นประเพณีที่เก่าแก่และสำคัญของพี่น้องชาว จ.นครพนม และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งต้องขอชื่นชมคณะกรรมการจัดงาน ศิลปินเรือไฟ และพี่น้องชาวนครพนมที่ได้ร่วมกันอนุรักษ์และสืบสานประเพณีที่มีความเก่าแก่ ศักดิ์สิทธิ์ และสวยงามให้คงอยู่คู่กับชาวนครพนมสืบมา

ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ทยอยเดินทางมาจับจองพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงตลอดแนวในเขตเทศบาลเมืองนครพนมตั้งแต่ช่วงบ่ายคล้อย ซึ่งมีความยาวกว่าสองกิโลเมตรเพื่อรอชมเรือไฟที่จะมีการแสดงการ ไหลในช่วงค่ำของคืนวันที่ 17 ต.ค. ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ของทุกปี

โดยบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำโขงในตัวเมืองนครพนม เริ่มคึกคักเมื่อนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเดินทางมาจับจองที่นั่งริมฝั่งแม่น้ำโขงทั้งสองฝั่งทั้งฝั่งไทยและฝังลาวนักท่องเที่ยวต่างทยอยจับจองหา ที่นั่งริมฝั่งโขงเพื่อรอชมเรือไฟที่ทยอยเริ่มปล่อยในเวลาประมาณ 18 30 ม และเมื่อถึงเวลาเรือไฟลำแรกซึ่งเป็นเรือไฟของ อำเภอนาหว้า ก็ถูกปล่อยอออกมาโชว์ความสวยงามตระการตาทันที และตามด้วยเรือไฟจากอำเภอศรีสงคราม

เรือไฟทั้งสองลำ ส่งเข้าประกวดในประเภทความคิดสร้างสรรค์ หลังจากนั้นเรือไฟจากอำเภอโพนสวรรค์และอำเภอนาทม ซึ่งส่งเข้าประกวดในประเภทสวยงาม ก็ออกมาโชว์ความงามตามลำดับ โดยเรือไฟแต่ละลำจะมีเอกลักษณ์ของตัวเอง แตกต่างกันออกไป นอกจากนั้นขนาดของเรือไฟแต่ละลำมีความยาวตั้งแต่ 70 ถึง 80 เมตร ความสูงประมาณ 20 ถึง 30 เมตร โดยมีการแบ่งประเภทเรือไฟออกเป็นสองประเภทคือประเภททความคิดสร้างสรรค์และประเภทสวยงาม

ซึ่งคณะกรรมการตัดสินเรือไฟให้คะแนนแยกตามประเภทที่แต่ละอำเภอสมัครตั้งแต่แรก ซึ่งนอกจากลวดลายต่างๆ บนเรือไฟจะสวยงามแล้วแต่ละลำยังมีการยิงพลุและตะไลเพื่อเรียกคะแนนจากกรรมการตัดสินทำให้ทั่วบริเวณสว่างไสวแลดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับปีนี้นับเป็นปีที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมงานเรือไฟมากกว่าทุกปี โดยนอกจากชาวบ้านแต่ละอำเภอจะเดินทางมาเชียร์และชื่นชมเรือไฟของตนแล้วนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดก็เดินทางมาเป็นจำนวนมากและจองห้องพักโรงแรมเต็มทุกโรงแรม จนบางรายไม่มีที่พักหลังจากชมเรือไฟแล้วแล้วต้องขับรถไปนอนที่จังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากห้องพักในตัวเมืองนครพนมเต็มทุกแห่ง อีกทั้งยังถือโอกาสขึ้นราคาห้องพักหลายเท่าตัวอีกด้วย


สำหรับผลการประกวดเรือไฟประจำปี 2567 ประเภทสวยงามที่ ลำดับที่1 ได้แก่เรือไฟของ อ.โพนสวรรค์
ลำดับที่2. อ.ท่าอุเทน ลำดับที่3. อ.เมือง ส่วนประเภทความคิดสร้างสรรค์ ชนะเลิศ ลำดับที่1.ได้แก่ อ.ศรีสงคราม ลำดับที่2. อ.บ้านแพง ลำดับที่ 3.อ.นาหว้า

ที่มา : MgrOnline