(คลิป) พรึ่บ! แรงงาน-นายจ้างกว่า 3,000 คน จาก 24 บริษัทรับเหมาช่วงไทย เดินเท้ายื่นหนังสือผู้บริหารโครงการพลังสะอาด

เผยแพร่ : 18 ต.ค. 2567 11:18:46
X
• แรงงานและนายจ้าง 3,000 คนจาก 24 บริษัทรับเหมาช่วงไทย รวมตัวเดินเท้าแสดงพลังยื่นหนังสือร้องขอความเห็นใจเจ้าของโครงการพลังงานสะอาดใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
• จุดประสงค์: เรียกร้องให้ผู้รับเหมาใหญ่ต่างชาติจ่ายเงินค้างค่างวด
• ปัญหา: บริษัทรับเหมาใหญ่ต่างชาติไม่จ่ายเงินค่าจ้างตามกำหนดเวลา



ศูนย์ข่าวศรีราชาพรึ่บแรงงาน-นายจ้างกว่า 3,000 คน ตัวแทนจาก 24 บริษัทรับเหมาช่วงไทยรวมตัวเดินเท้าแสดงพลังยื่นหนังสือร้องขอความเห็นใจเจ้าของโครงการพลังงานสะอาดใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จี้ผู้รับเหมาใหญ่ต่างชาติจ่ายเงินค้างค่างวด บูมกระหึ่ม PAY PAY PAY ขณะพ่อเมืองชลบุรี ส่งร้องผู้ว่าฯ รับเรื่องร้องทุกข์

จากกรณีที่สหพันธ์ผู้รับเหมาโรงกลั่น TOP โครงการพลังงานสะอาด CFP (Clean Fuel Project โรงกลั่นน้ำมันใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่เกิดจากการรวมตัวของ 24 บริษัทผู้รับเหมาช่วงไทย ได้ร่วมกันแถลงถึงผลกระทบที่เกิดจากการจ่ายเงินงวดของผู้รับเหมาหลักที่ ล่าช้าต่อเนื่องนานกว่า 6 เดือน จนส่งผลกระทบต่อทั้งนายจ้าง และแรงงานกว่า 2 หมื่นชีวิต พร้อมประกาศเดินเท้ายื่นหนังสือแจงความเดือดร้อน

และข้อเรียกร้องที่ต้องการให้เจ้าของโครงการแสดงความชัดเจนในการเจรจากับบริษัทผู้รับเหมาหลัก เพื่อให้นำเงินที่ได้รับออกมาจ่ายค่างวดงานให้ผู้รับเหมาไทย ก่อนที่สายป่านทางการเงินจะขาดจนต้องลอยแพแรงงานกว่า 20,000 คนนั้น



ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (18 ต.ค.) นายธวัชชัย ศรืทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้ นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เดินทางมาโค้งด้านหน้าโรงเรียนบุญจิตวิทยา ซึ่งเป็นจุดนัดรวมตัวของตัวแทนนายจ้างและแรงงานจาก 24 บริษัทผู้รับเหมาช่วงไทย เพื่อร่วมเดินเท้าไปยื่นหนังสือต่อผู้บริหารโครงการพลังงานสะอาด ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เผยว่า การเดินทางมาในวันนี้เพื่อรับทราบปัญหาของแรงงานและผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งหลังจากนี้ทางจังหวัดจะได้เรียกประชุมทุกภาคส่วน รวมทั้งกลุ่มบริษัทรับเหมาช่วงไทยที่ได้รับความเดือดร้อนเข้าร่วมประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกับเจ้าของโครงการ รวมทั้งจะหามาตรการเยียวยาแรงงานที่ได้รับความเดือดร้อนให้สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้

และหลังจากนั้นยังได้เดินนำกลุ่มแรงงานและบริษัทผู้รับเหมาช่วงไทย ไปยื่นหนังสือต่อตัวแทนบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)​ ที่ด้านหน้าโรงกลั่น ท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับของกลุ่มแรงงานที่พร้อมใจกันบูม PAY PAY PAY เพื่อเรียกร้องให้ผู้รับเหมาหลักจ่ายเงินค้าง

โดยมี นายนพรัตน์​ ศรีพรหม นายอำเภอศรีราชา และหน่วยงานราชการในพื้นที่ ร่วมรับฟังปัญหาของกลุ่มแรงงาน และพูดคุยกับผู้รับเหมาช่วงที่ได้รับผลกระทบ

ขณะที่รูปแบบการเดินขบวนจะแบ่งเป็น 2 เส้นทางคือ ขบวนแรกได้ออกเดินจากประตู 1 โครงการพลังงานสะอาด ไปยังป้ายสามเหลี่ยมด้านหน้าโครงการ ส่วนขบวนที่ 2 เดินเท้าจากโรงเรียนบุญจิตวิทยา ไปยังป้ายสามเหลี่ยมหน้าโครงการ เพื่อร่วมบูม PAY PAY PAY เรียกร้องให้ผู้รับเหมาหลักจ่ายเงินงวด

ซึ่งทั้ง 2 ขบวนจะมีผู้ร่วมเดินเท้ามากกว่า 3,000 คน โดยจะมีทั้งผู้บริหารบริษัทรับเหมาช่วงและแรงงาน ที่พร้อมใจกันใส่หมวก safety และเสื้อยูนิฟอร์มถือธงสัญลักษณ์ของแต่ละบริษัท รวมทั้งป้ายข้อความต่างๆ

เช่น คนจ่ายใจลอย คนคอยใจจะขาด รอเงินจาก 10,000 บาทจากรัฐ ยังดูมีความหวังกว่ารอเงินจาก ... คนไทยตกงาน บริษัทต่างชาติไม่จ่ายเงิน หรือแม้แต่การระบุชื่อ 3 ผู้ร่วมทุนบริษัทรับเหมาหลักต่างชาติ พร้อมเรียกร้องให้จ่ายเงิน 


และระหว่างเดินทางยังจัดทีมการ์ดของแต่ละบริษัทช่วยเคลียร์เส้นทาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ปิดท้ายขบวนด้วยทีมแม่บ้านที่จะช่วยทำความสะอาดจุดที่เดินผ่านเพื่อลดความเดือดร้อนต่อประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน

ส่วนเนื้อหาบางตอนที่ระบุในจดหมายซึ่งยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และผู้บริหารโครงการพลังงานสะอาด อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ระบุว่า

“ปัจจุบันผู้รับเหมาช่วงไทยกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากการที่ผู้รับเหมาหลักค้างชำระค่าจ้างก่อสร้าง แม้ว่าผู้รับเหมาช่วงได้ส่งมอบงานตามสัญญาเรียบร้อยแล้วซึ่งเป็นผลงานตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 รวมมูลค่าหลายพันล้านบาท และได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทผู้รับเหมาช่วงกว่า 100 กว่าราย และแรงงานกว่า 10,000 คน

นอกจากนี้ ผู้รับเหมาช่วงบางรายยังจำเป็นต้องดำเนินงานต่อโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จนทำให้เกิดภาวะขาดสภาพคล่องเป็นระยะเวลายาวนาน โดยยังไม่ได้รับการเยียวยาหรือความช่วยเหลือที่เพียงพอจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ การค้างชำระค่าจ้างก่อสร้างดังกล่าว ก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงในวงกว้าง ทั้งความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ เนื่องจากโครงการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมัน เป็นโครงการสำคัญที่จะเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ การล่าช้าหรือหยุดชะงักของโครงการจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแผนพัฒนาพลังงานในระยะยาว

และยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานกว่าหลายพันคนและครอบครัวที่ถูกเลิกจ้าง และที่กำลังจะถูกเลิกจ้าง สถานการณ์นี้อาจนำไปสู่ปัญหาสังคมที่รุนแรงในวงกว้าง เช่น การเพิ่มขึ้นของอาชญากรรม หรือปัญหาสุขภาพจิตในชุมชน รวมทั้งความเชื่อมั่นต่อเจ้าของโครงการในไทย ซึ่งจะส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของเจ้าของโครงการขนาดใหญ่ระดับประเทศ ซึ่งมีกระทรวงการคลังถือหุ้นทางอ้อมในอันดับต้นๆ และอาจส่งผลกระทบระยะยาวในอนาคต”

และยังได้มีการเรียกร้องให้ภาครัฐ และผู้ถือหุ้นทางอ้อมของเจ้าของโครงการหาแนวทางที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในการบรรเทาความเดือดร้อนและรักษาผลประโยชน์ของทุกฝ่าย เพื่อประคองให้โครงการดำเนินต่อไปได้

รวมทั้งข้อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์การค้างชำระค่าจ้างผู้รับเหมาช่วงในโครงการ และประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อความสำเร็จของโครงการ และจัดหามาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน สำหรับกลุ่มบริษัทผู้รับเหมาช่วง รวมถึงแรงงานที่ได้รับผลกระทบบ โดยเฉพาะการจัดตั้งกองทุนฉุกเฉิน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของแรงงานและครอบครัว

ที่สำคัญยังขอให้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดกระบวนการจ่ายค่าตอบแทนที่ค้างชำระ โดยอาจพิจารณาใช้มาตรการช่วยเหลือทางกฎหมายหากจำเป็น 





ที่มา : MgrOnline