“ตรี ภรภัทร” ปัดเป็นลูกรักช่องวัน ได้งานโปรเจ็กต์ใหญ่ตลอด

เผยแพร่ : 18 ต.ค. 2567 10:29:04
X
• ไว้ผมยาวเพราะเปลี่ยนลุคยาก: ตรี ยอมรับว่าอยากเปลี่ยนลุค แต่เปลี่ยนยาก เลยตัดสินใจไว้ผมยาว
• ขัดใจแม่: แม่ของตรีไม่ค่อยชอบที่เขาไว้ผมยาว แต่เขาก็อยากตามเทรนด์
• ไม่ใช่ลูกรัก: ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นลูกรัก ทำทรงไหนก็มีละคร ได้เล่นโปรเจกต์ใหญ่ตลอดเพราะแคสฯ ผ่าน ไม่เคยโดนผู้ใหญ่จิ้มโดยไม่ออดิชั่น
• ขอบคุณโอกาส: ขอบคุณทุกโอกาสที่เข้ามา ตั้งใจทำงานให้ดีกว่าเดิมตลอด
• รับทั้งคำชมและคำติ: ยอมรับว่ามีทั้งฟีดแบ็กดีและไม่ดี เก็บคำชม ส่วนคำติรีบทิ้ง

“ตรี ภรภัทร” ปัดเป็นลูกรักช่องวัน ทำทรงไหนก็มีละคร ได้เล่นโปรเจ็กต์ใหญ่ตลอดเพราะแคสฯ ผ่าน ยืนยันไม่เคยโดนผู้ใหญ่จิ้มโดยไม่ออดิชั่น ขอบคุณทุกโอกาสที่เข้ามา ตั้งใจทำงานให้ดีกว่าเดิมตลอด เผยฟีดแบ็กมีทั้งดีและไม่ดี อันดีๆ ก็เก็บไว้ ส่วนอันไม่ดีให้รีบทิ้ง

หลังได้มีเวลาพักจะก่อนเริ่มถ่ายละครเรื่องใหม่ พระเอกหนุ่ม “ตรี ภรภัทร ศรีขจรเดชา” ก็ขอเปลี่ยนลุค มาไว้ผมยาวแบบตามใจตัวเองสักหน่อย ล่าสุดเมื่อวานนี้ (17 ต.ค. 67) ได้เจอเจ้าตัว ในงานแถลงข่าว “ปรากฏการณ์ ONE สนั่นจอ” ก็เลยขอถามถึงเรื่องนี้ เพราะมีหลายคนแอบมองว่า หรือเพราะขึ้นแท่นเป็นลูกรักช่องวันแล้ว จะทำผมทรงไหนก็มีละครอยู่ดี 

“ไว้ผมยาวเพราะอยากทำตัวให้เด็กลงครับ โลกมันเปลี่ยนผ่าน เราก็ตามเทรนด์ของเด็กๆ ของยุคสมัยนี้ จริงๆ ปกติเป็นคนชอบไว้ผมยาวตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ก่อนมาเป็นนักแสดงก็ไว้ผมยาว แต่ ณ 8 ปีที่อยู่ผมสั้นตลอดเลย ก็เปลี่ยนลุคด้วย หาอะไรใหม่ๆ ครับ ถามว่าไว้ผมยาวดีไหม ก็จะได้ดูแลรักษาผมมากขึ้น แต่ถามว่าขัดใจใครบ้าง โอ้ยหลายคนเลย (หัวเราะ) เหมือนเขาอาจจะไม่ชินกับเราในลุคแบบนี้ แต่พอเขาเห็นเราบ่อยๆ เริ่มคุ้นชินก็เริ่มชอบ บอกหนุ่มญี่ปุ่นหรือเปล่า คือเราพักจากละครสงครามสมรส ก็ลองดูว่ามันจะยาวได้ขนาดไหน นี่ตัดไปแล้วนะ บางคนเขาก็ชอบ บอกว่าดูเด็กดี เป็นอีกแนว ส่วนคนที่ไม่ชอบก็บอกซกม๊กจังเลย เซอร์จังเลย (หัวเราะ) แม่ก็บอกผมยาวไปไหมลูก”

ปัดเป็นลูกรัก ไว้ทรงไหนก็มีละคร
“ผมว่าจริงๆ แล้วทุกคนเป็นลูกรักหมด ถ้าไม่ใช่ลูกรักไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ ทุกคนก็มีผลงานแตกต่างกันไป ทุกเรื่องมันมีการออดิชั่นมีการโชว์ฝีมือ ไม่ใช่จิ้มเล่นๆ แล้วไปเล่นได้เลย ทุกอย่างมันมีการตรวจสอบจากผู้ใหญ่แล้ว แล้วแต่ละเรื่องที่ผมเล่น โหดทุกเรื่องนะครับ ได้โอกาสก็ต้องให้ดี ผมก็ขอบคุณโอกาส ผมตั้งใจทำงานให้ดีกว่าเดิมตลอด ไม่มีครั้งไหนในชีวิตที่ไปทำงานและไม่อ่านบท ตอนไปแคสฯ ก็เตรียมตัวเหมือนกันทุกโปรเจกต์ ซึ่งมันก็มีโปรเจกต์ที่ผมไม่ได้ แต่สื่อไม่รู้ ระหว่างทางผมเจออะไรไม่มีใครรู้”

ยืนยันไม่ได้โดนจิ้มให้เล่นแต่โปรเจกต์ใหญ่ๆ
“ถ้าจิ้มก็ดีนะ จะได้ไม่ต้องไปแคสฯ (หัวเราะ) แต่เราโตขึ้น มันก็มีการคุยบทกันมากขึ้นด้วยว่าใชไม่ใช่ ตอนนี้ก็มีรุ่นน้องขึ้นมาเยอะ ผมก็แทนตัวว่าผมเป็นรุ่นพี่ได้ เวลาจะรับงานก็ต้องคุยกันให้ดีจริงๆ อยากให้ผลงานดีๆ ออกไปสู่สายตาประชาชน เพราะการทำละครเรื่องหนึ่งใช้เงินทุนสูง ใช้แรงกายมาก ก็อยากทำให้ดีที่สุด อยากให้ดูเบื้องหลัง ไม่เคยได้ยืนหล่อๆ แอร์เย็นๆ มีแต่เหงื่อซ่ก หน้าแหก แต่ก็เป็นประสบการณ์ ถ้าไม่ได้อยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้ ก็ขอบคุณโอกาส ขอบคุณโชคดี ขอบคุณแฟนๆ ที่ผลักดัน ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกๆ คนครับ”

ฟีดแบ็กดีๆ เก็บไว้เป็นแรงใจ ส่วนอันไม่ดีทิ้งไปให้ไวที่สุด
“ฟีกแบ็กมันก็มีทั้งดีและไม่ดี แต่มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว อันที่ดีเราก็ขอบคุณ เป็นแรงใจต่อไป ส่วนเรื่องไม่ดีก็ทิ้งไป (หัวเราะ) ทิ้งให้เร็วที่สุด เราไม่รู้จักกัน ให้เขาว่าขนาดนี้เราก็โอเคแล้ว ถ้าเอามาใส่ใจอีก มันยิ่ง บางทีไม่ต้องไปแคร์กับคนที่ไม่รู้จักบ้างก็ได้ ผมไม่เคยต้องตั้งรับอะไร เพราะเราทำงานด้วยใจ ไม่ได้มีอะไรปิดบัง ทำด้วยแพชชั่น ทำด้วยอยากทำ ถามว่าฟีดแบ็กมันตามมาหลอกหลอนเราไหม มันเหมือนไปตามกาลเวลาดีกว่า ถ้าเราไปยึดติดกับสิ่งที่แบบ อยากได้แบบนี้อีก อยากได้คนชมแบบนี้อีก ผมว่าต้องเข้าใจมากขึ้น ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ คนเรามีการผิดหวัง แต่เรียนรู้และเอามาเป็นประสบการณ์”




ที่มา : MgrOnline