“อัจฉริยะ” พอใจ สคบ.จ่อถอนใบอนุญาตขายตรงดิไอคอน หวังฟันบริษัทแนวเดียวกันกู้ศักดิ์ศรี ขรก.

เผยแพร่ : 17 ต.ค. 2567 17:34:48
X
• สคบ. เตรียมเพิกถอนใบอนุญาตขายตรงของ "ดิ ไอคอน กรุ๊ป" โดยรอเพียงหารือกฤษฎีกาเท่านั้น
• นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ พอใจกับผลลัพธ์ และหวังให้ดำเนินการกับบริษัทขายตรงที่มีลักษณะเดียวกัน
• การเพิกถอนใบอนุญาตครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อกู้เกียรติและศักดิ์ศรีข้าราชการ ที่ถูกนำไปใช้ในกิจกรรมของบริษัทฯ

“อัจฉริยะ” พอใจหลัง สคบ.เตรียมเพิกถอนใบอนุญาตขายตรง “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” รอเพียงหารือกฤษฎีกาเท่านั้น หวังฟันบริษัทขายตรงที่มีลักษณะเดียวกัน กู้เกียรติ และศักดิ์ศรีข้าราชการ

วันนี้ (17 ต.ค.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางมาทวงคำตอบจากคณะกรรมการ สคบ. เรื่องการเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด และส่งเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความที่ ปคบ.ตามมาตรา 19 หรือยัง หลังได้มายื่นเรื่องไว้เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา โดยมี นายจิติภัทร์ บุญสม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงาน สคบ. ชี้แจงว่า เราต้องดำเนินการเร่งด่วน เนื่องจากมีผู้เสียหายค่อนข้างมาก ทางเลขาธิการ สคบ. ได้ตั้งคณะทำงานมาดูแลประเด็นข้อกฎหมาย เพื่อหาประเด็นในการเพิกถอน ซึ่งเมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) ได้ประชุมครั้งแรก ก็มองว่า ข้อมูลที่นายอัจฉริยะให้มา พอที่จะเห็นว่าบริษัทมีการขายสินค้าปลีกและส่งจริง แต่อีกส่วนหนึ่งที่ว่ามันเหมือนเป็นการระดมทุน คือ มีการให้ดิลเลอร์ไปหาสมาชิกระดับเป็นระดับ 2 แสน 5 หมื่นด้วยกัน ถ้าขายแล้วไปหาสมาชิกระดับเดียวกันจะได้ตอบแทน 1 หมื่น ข้อมูลชุดนี้เราต้องตรวจสอบว่า คำนวณแล้วมา 4 เปอร์เซ็นต์ ในการจ่าย แต่ว่าใครเป็นคนจ่าย ไปถึงตัวบริษัทหรือไม่ ช่องทางการเงินจ่ายกันอย่างไร ตรงนี้เราจะต้องไปตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม คณะทำงานชุดนั้น มี 2 แนวทาง คือ ใช้มาตรา 19 ตาม พ.ร.บ.ขายและตลาดขายตรง อีกส่วนจะหาเหตุตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ว่า บริษัทนี้ไปประกอบธุรกิจตลาดขายตรง และไปก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชน โดยทั่วไปจำนวนมาก ถ้าปล่อยไว้ให้ดำเนินการต่อจะก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ รองเลขา สคบ. จะไปหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าช่องทางนี้สามารถดำเนินการได้หรือไม่ตามกฏหมาย ถ้าได้ก็จะใช้อำนาจทางปกครอง เพิกถอน ใบอนุญาตของบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ส่วนมาตรา 19 เราได้มีการสอบผู้เสียหาย 2 ปากในวันนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการสนับสนุนหลักฐานว่ามีการปันผลประโยชน์ ในลักษณะชักชวนให้ลงทุน ซึ่งต้องรอการพิจารณาของคณะทำงานอีก 1-2 วัน เราตั้งประเด็นเพิกถอนเป็นหลัก เพื่อให้ถูกกฎหมายในการออกคำสั่ง

“เราเข้าใจถึงปัญหาตรงนี้ เห็นแล้ว โดนจับไปแล้ว พวกบอสต่างๆ เราต้องรีบเร่งพิจารณาให้เรียบร้อยโดยเร็ว” นายจิติภัทร กล่าว

นายอัจฉริยะ ได้รับทราบแล้ว โดยกล่าวว่า จะให้เวลาทาง สคบ.อีก 2 วัน โดยภายในวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม สคบ.จะต้องมีคำตอบ ถ้ายืนยันว่า มีการยึดแน่ ก็จะรอถึงวันจันทร์ ถ้าเรายึดใบอนุญาตของดิ ไอคอน กรุ๊ป ถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะเมื่อเรายึดใบอนุญาต กิจการของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ก็ถือว่าล่มสลาย ก็จบเลย เพราะประชาชนอีก 6 แสนรหัส ก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะเป็นตัวอย่างที่ดี ทำให้บริษัทอื่นๆ ที่ทำธุรกิจเดียวกัน ก็ต้องถูกจับเช่นเดียวกัน เพราะเราเชื่อว่า ยังมีอีกหลายบริษัท ที่ทำลักษณะเช่นนี้ เราเชื่อว่า สคบ.จะต้องรักษาความยุติธรรม รักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของข้าราชการที่ทำงานเพื่อประชาชน ตนยังให้โอกาส โดยในวันจันทร์จะมาทวงถามอีกครั้ง ถ้าไม่ได้ก็อย่าโกรธ ก็จะไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อข้าราชการที่ปฏิติหน้าที่ไม่ชอบ

ที่มา : MgrOnline