"แม่อยากถ่ายรูปคู่กับคนที่รักทั้งสอง" อ๊อฟ ศุภณัฐ เผยเบื้องหลังร่วมเฟรมบอสพอล

เผยแพร่ : 17 ต.ค. 2567 14:56:16
X
• อ๊อฟ ศุภณัฐ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีครอบครัวสูญเงิน 1 ล้านบาท จากการลงทุนกับบริษัท ดิ ไอคอน
• ยืนยันเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่แม่ข่าย
• เผยเบื้องหลังร่วมเฟรมกับ บอสพอล เนื่องจากคุณแม่ชวนถ่ายรูปคู่กับคนที่รักทั้งสอง

"อ๊อฟ ศุภณัฐ"ตัดสินใจเข้าแจ้งความผู้บริหารดิไอคอนกรุ๊ป ทำครอบครัวสูญเงิน 1 ล้าน ยืนยันเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่แม่ข่ายเผยเบื้องหลังร่วมเฟรมบอสพอล คุณแม่ชวนถ่ายรูปคู่กับคนที่รักทั้งสอง




วันนี้ ( 17 ต.ค. ) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) อ๊อฟ ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ พร้อมมารดาเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.เพื่อแจ้งความในฐานะผู้เสียหายคดีดิไอคอนกรุ๊ป

อ๊อฟ ศุภณัฐ กล่าวว่า วันนี้ตนเองและแม่นำหลักฐานมาแจ้งความในฐานะผู้เสียหาย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มาแล้วหนึ่งครั้ง แต่ยังไม่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเนื่องจากมีผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความเป็นจำนวนมาก คิวยาว จึงกลับไปก่อน ซึ่งหลังจากที่ทราบข่าวว่ามีผู้ต้องหาจำนวน 18 รายนั้น ตนเองยอมรับว่าตกใจ และเสียใจ ในมุมของคนที่อาจจะตกเป็นผู้กระทำความผิดแต่อาจจะไม่รู้ ส่วนคนที่รู้ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น

อ๊อฟ ศุภณัฐ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่ได้กังวล เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด และตนเองกับแม่ก็เป็นผู้เสียหาย ซึ่งเริ่มจากแม่ของตนเองเห็นจากการยิงแอดโฆษณาผ่านโซเชียล จึงตัดสินใจเข้าไปร่วมลงทุน จากนั้นมีการชักชวนตนเองและคนในครอบครัว เข้ามาร่วมลงทุนต่อเฉพาะของตนเองประมาณ 3 แสนบาท และแม่อีก 7 แสนบาท รวมทั้งของคนในครอบครัว มูลค่าความเสียหาย 1 ล้านบาท ขณะนี้ตนเอง และแม่เลิกทำธุรกิจดังกล่าวมาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างแม่ข่ายกับผู้เสียหายมีเส้นบาง ๆ กั้นอยู่ รู้สึกกังวลใจหรือไม่ นายอ๊อฟ ตอบว่า ตนเองไม่ได้กังวลใจเนื่องจากไม่ได้ชวนคนอื่นร่วมลงทุนเพราะส่วนใหญ่จะเป็นคนในครอบครัว ซึ่งทุกคนเห็นใจ และสมัครใจเข้ามาร่วมลงทุนกัน ซึ่งตนเองยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ไม่กังวล

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าหลังจากที่เข้าไปเป็นสมาชิกของบริษัทแล้วมีกลุ่มบอสดาราเข้ามาชักชวนในการทำธุรกิจหรือไม่ อ๊อฟตอบว่า คนในวงการไม่มีใครรู้ว่าตนเองเข้าไปร่วมลงทุนกับธุรกิจนี้ แล้วที่เห็นก็เป็นทางฝั่งของแม่ที่เห็นผ่านแอดโฆษณา และในช่วงนั้นงานในวงการบันเทิงของตนเองน้อย จึงตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจ ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีคนเข้าใจผิดเพราะในรายชื่อผู้ต้องหา มีชื่อ “บอสอ๊อฟ” และ “บอสจอย” ซึ่งหลังจากจับกุมตัวได้นั้นตนเองก็โล่งใจ ที่ประชาชนได้เห็นว่าเป็นคนละคนกัน

"ยอมรับว่าในขณะที่ร่วมธุรกิจกับบริษัทดิไอคอน เคยได้เจอกับบอสพอล ซึ่งในครั้งนั้นผมไปรับแม่ที่งานประชุมของบริษัท จากนั้นแม่เป็นคนขอให้ลงจากรถโดยบอกว่า “แม่อยากถ่ายรูปกับคนที่แม่รักทั้งสองคน” ซึ่งในตอนนั้นผมไม่ทราบว่าคน ๆ นั้น คือบอสพอล ดาราหนุ่ม กล่าว









ที่มา : MgrOnline