## สรุปข่าวประเด็นสำคัญ: * **คณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค (กมธ.สคบ.) เชิญ สอบสวนกลาง (สก.) และ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) อัปเดตสถานการณ์โครงการ "ดิไอคอน" ของบุญยิ่ง** * **กมธ.สคบ. ยืนยันจะใช้คลิปเสียงในการสอบสวน เพื่อพิสูจน์ว่าใครอยู่เบื้องหลัง** * **กมธ.สคบ. ระบุว่า คลิปเสียงจะชี้ชัดถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง** * **นายประเสริฐพงษ์ (ไม่ระบุชื่อเต็ม) มั่นใจว่า วันนี้จะรู้ว่าใครเป็น "เทวดาคุม สคบ."**
กมธ.สคบ.เชิญ สอบสวนกลาง-สคบ.อัปเดตสถานการณ์ดิไอคอน “บุญยิ่ง” น้ำท่วมปาก ลั่นคลิปเสียงพูดไปจะรู้เลยว่าใคร เดี๋ยวจะกลายเป็นการรังแก ด้าน “ประเสริฐพงษ์” เชื่อวันนี้รู้แน่ ใครเป็นเทวดาคุม สคบ.


วันนี้ (17 ต.ค.) ที่รัฐสภา นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเชิญผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และตำรวจสอบสวนกลาง มาหารือในกรณี ดิไอคอน ว่า เป็นการเชิญมาเพื่อสอบถาม ว่า ขณะนี้ดำเนินการถึงขั้นไหนแล้ว และอยากให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือทันที เร่งด่วน เด็ดขาด เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความวิตกไปมากกว่านี้

โดยในแง่ของรายละเอียดภาพรวมอยากให้ประชาชนคนไทยที่เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้รับการช่วยเหลือแก้ไขและได้รับการคืนเงินให้โดยเร็วที่สุด เพราะมีหลายครอบครัวที่ลำบากมาก เช่น การโกรธเคืองกันในครอบครัว เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ในสังคมไทย เพราะจากที่ดูในสื่อ ผู้บริหารดิไอคอน มีทรัพย์สินจำนวนมาก ถ้าหากนำส่วนนั้นมาเร่งช่วยเหลือทุกคน ก็คงไม่เกินกำลัง พร้อมยืนยันว่า การประชุมวันนี้ จะมีประโยชน์กับภาครัฐและประชาชนที่โดนเอารัดเอาเปรียบ

ส่วนเรื่องคลิปเสียงของคนที่อ้างว่าเคลียร์กรรมาธิการได้นั้น นางบุญยิ่ง กล่าวว่า สุดท้ายเราต้องรู้ ว่าเป็นใคร วันนี้สิ่งที่เป็นเรื่องผิดก็ต้องผิด หากไม่ผิดก็ไม่ผิด ซึ่งช่วงหนึ่งมีการพาดพิงถึงกรรมาธิการ รวมถึงกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภคด้วย โดย เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาในกมธ.ชุดนี้ และในวันนั้นกมธ.ก็ได้ส่งให้สคบ.พิจารณา และมีการไกล่เกลี่ยเงินชดเชยชดใช้ให้เป็นที่พอใจของผู้ร้องและจบด้วยดี

ส่วนเรื่องคลิปเสียง “ถ้าดิฉันพูดตอนนี้จะรู้ว่าเป็นใคร ดิฉันเชื่อว่าเดี๋ยวดิฉันจะโดนฟ้อง ดิฉันขอเวลาให้เรื่องนี้กระจ่างกว่านี้ ตอนนี้หากพูดไปจะพาดพิงเขา เพราะมันชัดเจนเกินไป เหมือนเป็นการรังแกเขา” นางบุญยิ่ง กล่าว

ขณะที่ นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองอยู่กรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สมัยที่ 2 แล้ว และเคยมีเรื่องร้องเรียนกรณีดิไอคอน เข้ามาแล้วเช่นเดียวกัน ในสมัยที่แล้วมีการไกล่เกลี่ยและจบไป แต่ประเด็นที่จะพิจารณาวันนี้ คือ การถามหน่วยงานราชการ และ สคบ.น่าจะมีคำตอบให้เรา ซึ่งในภาพรวมที่มีข่าวออกไป อาจจะทำให้ภาพของ สคบ.เสื่อม เพราะ สคบ.เป็นองค์กรที่มีบุคลากรที่มีความรู้ และน่าเชื่อถือเยอะ อาจจะมีคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ไปแอบอ้าง เราเชื่อว่า จะได้ตัวจริงของคนที่รับจดทะเบียน ตัวจริงที่รับเรื่องร้องเรียน แล้วพัวพันกับผลประโยชน์บริษัท ดิไอคอนแน่นอน

ส่วนเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาได้มีการตรวจสอบหรือไม่ว่าดิไอคอนทำธุรกิจตามที่ได้จดทะเบียนไว้ นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า ครั้งที่แล้ว สคบ.ได้วินิจฉัยแล้วว่าบริษัท ดิไอคอน ทำธุรกิจไม่ตรงกับที่จดทะเบียนไว้ แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้ปฏิบัติงานใน สคบ.ทางดิไอคอนได้มีการไปยื่นขอจดทะเบียนใหม่ จึงไม่ได้เอาเรื่องเก่าขึ้นมาประกอบการพิจารณาของคนที่อนุมัติให้จดทะเบียน

นายประเสริฐพงษ์ ยังกล่าวด้วยว่า ประเด็นหลักที่จะที่ถาม คือ เรื่องเทวดาหรือลูกกรอกใน สคบ. ซึ่งคาดว่า น่าจะได้คำตอบแน่นอน เพราะเอกสารทางราชการมีอยู่ชัดเจน และพอที่จะเปิดเผยได้หลังจากการประชุม ซึ่งเรื่องนี้คิดว่า เป็นความผิดพลาดของหน่วยงานราชการบางหน่วยเท่านั้น และเป็นจุดบกพร่องของผู้ปฏิบัติงานบางคน อาจจะทำให้องค์กรเสียหาย แต่วันนี้ได้มีตัวแทนขององค์กรในระดับผู้บริหารมาก็น่าจะทำให้กระจ่างได้ไปเยอะ

พร้อมยืนยันว่า ฝ่ายการเมืองคงไม่มีใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์พวกนี้ หากเข้าไปคงโดนแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานในสภา​ชุดที่ผ่านมา มีการตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่งใน กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค ที่มี นายมานะ โลหะวณิชย์ สส.จังหวัดชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน โดยช่วงเดือน ม.ค. 2566 มีหญิงรายหนึ่งมาร้องเรียนว่า บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ไม่ได้ดำเนินการตามสัญญา ชักชวนให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า จากนั้นเรื่องดังกล่าวได้ถูกนำเข้าสู่ที่ประชุมในชั้นอนุกรรมาธิการ ที่มี นางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เป็นประธานอนุ กมธ.

ที่มา : MgrOnline