## สรุปข่าวประเด็นสำคัญ: * ชาวบ้านปัตตานีสงสัยการก่อสร้างถนนที่หักหลบต้นไม้ใหญ่ ไม่ตัดออกไป ทำให้ถนนโค้งงอ * แขวงทางหลวงปัตตานีชี้แจงว่าต้นไม้ดังกล่าวเป็นต้นตะเคียนทราย ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม * ขณะนี้ทางแขวงกำลังดำเนินการขออนุญาตขุดล้อมต้นไม้เพื่อย้ายไปปลูกในพื้นที่อื่น
ปัตตานี - ชาวบ้านปัตตานีงงก่อสร้างถนนแต่หักหลบต้นไม้ไม่เอาออกหวั่นเกิดอุบัติเหตุ แขวงทางหลวงปัตตานีชี้แจงเป็นต้นตะเคียนทราย ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม กำลังทำเรื่องขอขุดล้อมย้ายไปพื้นที่อื่น

วันนี้ (16 ต.ค.) ได้มีการเผยแพร่ภาพถนนแห่งหนึ่งในโซเชียล ซึ่งเป็นถนนในพื้นที่ ม.4 ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นเส้นทางฝั่งปัตตานี-ยะลา ที่กำลังก่อสร้างถนน ปรากฏว่ามีการลาดยางมะตอยไม่เป็นแนวตรง แต่มีการเลี่ยงต้นไม้ต้นหนึ่งที่โผล่ออกมาเกือบกลางถนน โดยไม่มีการตัดออกแต่อย่างใด แถมยังเป็นจุดที่ไม่มีแสงไฟส่องสว่างในยามค่ำคืน เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเป็นอย่างมาก อีกทั้งสร้างความประหลาดใจ และสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านและผู้ใช้ถนนเป็นอย่างมาก ต่างสงสัยทำไมไม่ตัดต้นไม้ออกก่อนที่จะลาดยางมะตอย

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่เข้าตรวจสอบจุดดังกล่าว พบว่าต้นไม้ดังกล่าวขวางทางจราจรจริง อยู่ฝั่งปัตตานี-ยะลา และเป็นถนนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จากการสอบถามคนงานบอกว่า ต้นไม้ดังกล่าวนั้นคือ ต้นตะเคียน ซึ่งเป็นต้นไม้สงวน โดยเจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่สามารถทำอะไรได้ต้องรอการยื่นขอกับทางกรมป่าไม้ในการย้ายออก แต่ที่จำเป็นต้องลาดยางก่อนเพื่อให้สะดวกในการสัญจรของประชาชน

ล่าสุด แขวงทางหลวงปัตตานีได้ออกมาชี้แจงทางเพจเฟซบุ๊กว่า โครงการก่อสร้างในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นงานก่อสร้างเพิ่มช่องจราจร อยู่ในความรับผิดชอบของแขวงทางหลวงปัตตานี สำหรับต้นไม้ที่อยู่ในเขตทางหลวง คือ ต้นตะเคียนทราย เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. (ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้) ซึ่งแขวงทางหลวงปัตตานีได้ประสานขออนุญาตเพื่อทำการขุดล้อมกับสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปัตตานี และเมื่อได้รับอนุญาตจะทำการขุดล้อมไปปลูกในที่ดินสงวนนอกเขตทางหลวงของกรมทางหลวง ในทางหลวงหมายเลข 409 ตอน นาเกตุ-ป่าพ้อ กม.10+100 ห่างจากโครงการก่อสร้างประมาณ 8 กิโลเมตร เพื่อไม่ให้มีผลกระทบและอันตรายต่อผู้ใช้เส้นทาง

ซึ่งในระหว่างการพิจารณาอนุญาตให้ดำเนินการขุดล้อมต้นไม้และก่อสร้างตามโครงการ แขวงทางหลวงปัตตานีจะดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้เส้นทางและอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการใช้ทางหลวง

ทั้งนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงจึงทราบว่าจุดที่ต้นไม้อยู่นั้นหากแล้วเสร็จ จะเป็นจุดที่เป็นทางเท้า แต่ไม่ใช่จุดสำหรับการสัญจรแต่อย่างใด


ที่มา : MgrOnline