"ดีเอสไอ" ประสาน ตร. สนับสนุนทำคดี "ดิไอคอน" พิจารณาเป็นคดีพิเศษ

เผยแพร่ : 15 ต.ค. 2567 14:45:08
X
• ดีเอสไอทำหนังสือประสาน ตร. ขอข้อมูล "ดิ ไอคอน" เพื่อสนับสนุนการทำงานคู่ขนาน
• ดีเอสไออยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดว่าคดีเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่

MGR Online - โฆษกดีเอสไอ เผยทำหนังสือประสาน ตร. ขอข้อมูล "ดิไอคอน" พร้อมสนับสนุนการทำงานคู่ขนาน ส่วนเข้าข่ายคดีแชร์ลูกโซ่อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด

วันนี้ (15 ต.ค.) เวลา 12.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยหลังการประชุมติดตามคดี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด อาจเข้าข่ายคดีพิเศษ ว่า จากการประชุมกำหนดแนวทางการทำงานหากรับกรณี บริษัท ดิไอคอน เป็นคดีพิเศษ ภายใต้พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 เบื้องต้น กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้รับมอบหมายให้มีหนังสือประสานไปยัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอทราบรายละเอียดประเด็นการสืบสวนสอบสวนและเป็นข้อมูลตั้งต้นเพื่อดำเนินการคู่ขนานกันต่อเนื่องไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นทางตำรวจให้สัมภาษณ์ว่าอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและยังไม่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าไม่เป็นไรแต่ทั้ง 2 หน่วยงานร่วมกันทำงานอย่างไร้รอยต่อ เพราะข้อมูลพร้อมร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานอยู่แล้ว ส่วนดีเอสไอมีการสืบสวนสอบสวนพบว่าเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือยังนั้น ขณะนี้ยังเร็วไปที่จะตอบ ต้องขอดูข้อเท็จจริงก่อน หากมีความคืบหน้าประเด็นสำคัญ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ จะมาให้ข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง

ถามว่า สำหรับผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจำนวนมากต้องเข้าข่ายคดีพิเศษนั้น พ.ต.ต.วรณัน กล่าวอีกว่า ขอชี้แจงว่าเรื่องผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหาย ทุกคนได้รับทราบกันอยู่แล้วเป็นเรื่องที่กระทบต่อความสังคม แต่ในเรื่องเขตอำนาจว่าคดีไหนเป็นคดีพิเศษนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติงาน แต่ขณะนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังรับผิดชอบการทำงานอยู่ ดีเอสไอ ก็พร้อมคอยซัพพอร์ต

ถามว่า พฤติการณ์เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่เป็นอย่างไร พ.ต.ต.วรณัน กล่าวต่อว่า ต้องมีการหมุนเวียนจ่าย เอารายได้คนสุดท้ายมาจ่ายคนต้น มีองค์ประกอบย่อยอื่น เช่น ต้องมีลักษณะการกู้ยืมเงิน เชิญชวนให้มาร่วมลงทุนธุรกิจ จ่ายผลประโยชน์ตอบแทน แต่คดี ดิไอคอน มีข้อเท็จจริงบางส่วนต้องดูรายละเอียดเพราะตามข้อมูลเป็นสัญญาแบบขายขาด ขายสินค้า แต่มีการช่วยทำการตลาด ส่วนบริษัทมีสินค้าจำหน่ายแต่ระดมทุนเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่นั้น ต้องขอดูรายละเอียดแห่งพฤติการณ์ก่อน

ถามว่า ความผิดบัญชีแนบท้ายตาม พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 อาจเข้าข่ายหลายคดี พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ดีเอสไอ ตรวจสอบ 2-3 ประเด็น ที่เข้าบัญชีแนบท้ายดังกล่าวเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ ถ้าเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน หรือ พบทรัพย์สินกระทำผิดตั้งแต่ 300 ล้านบาทขึ้นไป อาจเข้าข่ายฐานคดีฟอกเงิน ยังมีกฎหมายคดีผู้บริโภคและคดีภาษี

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวต่อว่า ในส่วนประชาชนสงสัยทำไมคดีอาจล่าช้านั้น ส่วนตัวมีความเห็นว่าคดีไม่ได้ล่าช้า ทางตำรวจมีการสอบปากคำผู้เสียหายกว่า 1,000 รายแล้ว ส่วนดีเอสไอช่วยสนับสนุนการทำงานที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น การไล่ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งพบว่ามีความผิดปกติหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายได้ รายจ่าย งบดุลอื่นๆ โดยกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน กำลังช่วยวิเคราะห์ตรวจสอบอยู่

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวเสริมว่า ส่วนกรณีบอสพอลจ่ายให้กลุ่มดาราเป็นรายเดือนและค่าเปอร์เซ็นต์ยอดขายนั้น ต้องตรวจสอบว่ากลุ่มดาราเป็นผู้ลงทุนหรือไม่ แต่ฟังจากสื่อเป็นเหมือนพนักงาน สุดท้ายก็ต้องดูข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร รวมทั้ง ดีเอสไอจะสืบสวนจากงบการเงินและบัญชี และประสานข้อมูลผู้เสียหายมาประกอบ ย้อนไปตั้งแต่ปี 62 ตอนเริ่มธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่มีข้อมูลกรณีผู้เสียหายให้สัมภาษณ์ว่ามีเทวดาช่วยเคลียร์ 4 หน่วยงาน มีดีเอสไอเป็น 1 ในนั้น หากใครมีข้อมูลส่งมาให้หน่อย

"ยืนยันไม่เป็นการแย่งผลงานระหว่างหน่วยงาน เพราะคดีอาญาต้องมีหน่วยงานรับผิดชอบ แต่หลักการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว"

ที่มา : MgrOnline